นายฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ไทยแลนด์ เมียนมา กัมพูชา และลาว กล่าวถึง อนาคตของเทคโนโลยีเวชภัณฑ์และการบำบัดรักษาโรค บนเวทีงานสัมมนา Health & Wealth Forum : สร้างสุขก่อนสูงวัย อยู่ดี สุขภาพดี การเงินดี จัดโดยสื่อเครือเนชั่นนำโดย กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ เนชั่นทีวี ช่อง 22 และสปริงนิวส์ วันนี้ (22 ส.ค.) ระบุว่า นวัตกรรมเทคโนโลยีจะทำให้แนวทางการดูแลสุขภาพในอนาคตนั้น มีความแม่นยำมากขึ้น มีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น และจะทำให้แพทย์สามารถตรวจพบและวินิจฉัยโรคได้ทั้งในเชิงป้องกัน และทันเวลา โรชเองก็เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์ระดับโลกที่ทุ่มเทและให้ความสำคัญกับ การวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนายาและการรักษาแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการลงทุนในด้านนี้ปีละไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือกว่า 4.51 แสนล้านบาท
“โรชก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1896 เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการเข้าถึงทางการแพทย์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย เราให้ความสำคัญและลงทุนกับงานด้านวิจัยและพัฒนา นับเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในด้านการวิจัย เน้นการลงมือทำและวิจัยพัฒนาในวันนี้เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้ใช้ในอนาคต (ตามคำขวัญ Doing now what patients need next)” ผู้บริหารของโรช ไทยแลนด์กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้งในสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
นอกจากการพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างสรรค์ยาและการรักษาที่ดีขึ้น มีประสิทธิมากขึ้น สำหรับประชากรโลกแล้ว บริษัทยังให้น้ำหนักความสำคัญการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้มากขึ้นในเรื่องยาและการใช้ยา มีการลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับฐานข้อมูล (data base) และการวิเคราะห์ ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนางานด้านการวิจัยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมทั้งงานวิจัยและพัฒนาด้านพันธุกรรมบำบัด (Gene Therapy) ที่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆในอนาคต
สำหรับโรช ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเพิ่งครบรอบก่อตั้ง 50 ปีเมื่อปีที่ผ่านมา (บริษัทก่อตั้งในปี พ.ศ. 2514) ดำเนินงานสอดคล้องกับบริษัทแม่โดยมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพแบบจำเพาะบุคคล การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การเข้าถึงการรักษา และการรักษาโรคมะเร็งสำหรับผู้ป่วยชาวไทย บริษัทลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเข้ามีส่วนร่วมอย่างมากต่อการค้นคว้าด้านมะเร็ง ภูมิคุ้มกัน โรคไตเรื้อรัง โรคติดเชื้อ และโรคหายาก โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้ป่วยมากถึง 2.9 ล้านคนทั่วประเทศไทยได้รับการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ของโรช
บริษัทให้ความสนับสนุนโครงการวิจัยทางคลินิกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ป่วยชาวไทยเกินกว่า 1,000 คนซึ่งได้รับการรักษาจากการเข้าร่วมใน 35 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ ในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทยยังมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทโรชอยู่ถึง 12 รายการ
“เราเชื่อว่าการป้องกันคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เมื่อพูดถึงมะเร็ง เรามุ่งเน้นการวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการตรวจคัดกรอง การทดสอบ ซึ่งลงลึกถึงระดับพันธุกรรม (genomic screen) เพื่อที่จะสามารถกำหนดยาและวิธีการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลามากขึ้น ยกตัวอย่างการตรวจวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยมะเร็งปอด ถ้าเราตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ขั้นสอง ก็จะทำให้มีผู้ป่วยที่รักษาหายและมีอัตรารอดเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อัตราเสียชีวิตเหลือเพียง 20% แต่ถ้าไปขั้นที่ 3 ที่ 4 แล้ว อัตราการรอดก็จะลดลง นั่นเป็นเหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมในการตรวจคัดกรองโรคและการวิเคราะห์วินิจฉัยอาการของโรคที่ดียิ่งขึ้น”
เกี่ยวกับสังคมผู้สูงวัยในไทยนั้น เขากล่าวว่า การดูแลสุขภาพของผู้สูงวัยถือเป็นความท้าทาย แต่เราก็ควรให้ความสำคัญกับสุขภาพของกลุ่มประชากรในทุก ๆวัยด้วย เพราะคนอายุน้อยกว่าก็จะต้องเป็นพลังสำคัญในการดูแลประชากรกลุ่มผู้สูงวัย จึงควรต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านสาธารณสุขหรือสวัสดิการด้านสุขอนามัยสำหรับประชากรทุกวัย รัฐบาลอาจจะต้องทุ่มลงทุนกับงบด้านสาธารณสุขและการคุ้มครองสุขภาพประชาชนมากยิ่งขึ้น