วันนี้ (11 ธันวาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. .... ของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
โดยกำหนดให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ซึ่งหน่วยงานของรัฐจะต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ภายใต้กฎหมายใหม่ ได้ขยายขอบเขตการบังคับใช้ให้ครอบคลุมถึงการให้บริการ และกำหนดเวลาการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน ลดขั้นตอนการอนุญาตที่ไม่จำเป็น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการอนุญาตและการให้บริการภาครัฐและให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาอนุมัติ อนุญาต เพียงเท่าที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นการลดภาระและต้นทุนของประชาชน ลดการทุจริตและประพฤติมิขอบ
รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในภาพรวม เช่น เพิ่มเติมหลักการพื้นฐานในการพิจารณาที่จะต้องมีการพัฒนาระบบการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี กำหนดหลักเกณฑ์กลางเกี่ยวกับการรับและตรวจสอบคำขออนุญาต
กรณีกฎหมายใดกำหนดให้ประชาชนต้องขออนุญาตหน่วยงานของรัฐ ต้องจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนภายใน 60 วัน นับแต่กฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับ และจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดในคู่มือดังกล่าว และแจ้งผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ
กำหนดให้มีระบบอนุญาตหลัก (Super License) ซึ่งเป็นกรณีจะต้องขออนุญาตต่อผู้อนุญาตหลายรายหรือหลายกระบวนการ เมื่อกำหนดให้ผู้ใดได้รับใบอนุญาตหลักของกิจการใดให้ถือว่าผู้นั้นได้รับใบอนุญาตรองของกิจการนั้นด้วย โดยไม่ต้องยื่นคำขอรับอนุญาตรองใหม่อีก
กำหนดให้มีการทบทวนและปรับปรุงการใช้ระบบอนุญาตอย่างน้อยทุก 5 ปี พร้อมกับการประเมินผลสัมฤทธิ์ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนด รวมทั้งกำหนดให้มีศูนย์รับคำขอกลาง เพื่อรับคำขอและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่ประชาชนยื่นมา ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มมาตรการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยการจัดให้มีการเผยแพร่คู่มือสำหรับประชาชนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ให้มีระบบช่องทางพิเศษแบบเร่งด่วนสำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนแบบลดภาระดอกเบี้ย โดยการเน้นตัดต้นเงิน และหนี้บัตรเครดิตด้วย