ยักษ์ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นขยายลงทุนไทยเพิ่ม 6.2 หมื่นล้าน

01 ธ.ค. 2567 | 04:09 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2567 | 04:29 น.

ยักษ์ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นขยายลงทุนในไทยเพิ่ม 6.2 หมื่นล้าน เผยจะเริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่บนที่ดิน 65 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท และมีแผนขยายเพิ่มเติมในอนาคตจนครบพื้นที่ 200 ไร่

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่น เตรียมทุ่มเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อขยายการลงทุนในประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. โดยจะเป็นการเริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่บนที่ดิน 65 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท และมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตจนครบพื้นที่ 200 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 62,000 ล้านบาท

สำหรับโรงงานแห่งนี้จะผลิต MULTI LAYER CERAMIC CAPACITOR (MLCC) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ ใช้ในสมาร์ทโฟน อุปกรณ์สื่อสาร และยานยนต์

ยักษ์ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่นขยายลงทุนในเพิ่ม 6.2 หมื่นล้าน

บริษัท มูราตะฯ เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2531 ที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน และขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 450 ไร่ ด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในด้านการส่งเสริมการลงทุน บริษัทฯ จึงตัดสินใจขยายการลงทุนเพิ่มเติมในนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเดิม

"การที่บริษัท มูราตะฯ เลือกขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์"
 

นายสุเมธ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับโรงงานผลิตในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยโรงงานในไทยเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโรงงานในเครือมูราตะที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญ โดยเฉพาะการจ้างแรงงานชาวไทย ซึ่งจัดว่าเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ 

อย่างไรก็ดี การขยายการลงทุนของบริษัท มูราตะฯ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน