นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการสั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งดำเนินการให้มาตรฐานมีผลบังคับใช้โดยเร็ว
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทำให้ของเหลวร้อน เช่น หม้อหุงข้าว หม้อต้มไฟฟ้า และกระติกน้ำร้อน เป็นต้น และภาชนะสแตนเลส 7 รายการ ได้แก่ หม้อ กระทะ ตะหลิว ช้อน ส้อม ถาดหลุมใส่อาหาร และปิ่นโต
หลังจากที่คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) มีมติเห็นชอบให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหล่านั้นเป็นสินค้าควบคุม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ มาตรฐานดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียและผู้เกี่ยวข้องได้มีโอกาสชี้แจงแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ สมอ. ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทั้งผู้ทำและผู้นำเข้าที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 1,300 ราย เตรียมความพร้อมในการยื่นขออนุญาต ก่อนที่มาตรฐานจะมีผลบังคับใช้ปลายปี 2567 นี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า สมอ. ได้ดำเนินการจัดการสัมมนาเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดในมาตรฐานและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเตรียมความพร้อมในการยื่นขอรับใบอนุญาตตามมาตรฐานดังกล่าว ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มาตรฐานดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องยื่นขอรับใบอนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำและนำเข้า โดย สมอ. ได้เตรียมการเพื่อรองรับการยื่นขออนุญาตจากผู้ประกอบการ
ด้านการทดสอบผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ได้เตรียมห้องแล็บเพื่อการทดสอบ ได้แก่ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,บริษัท เอสจีเอส ประเทศไทย จำกัด ,บริษัท โกลบอล คอมไพลแอ็นซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด
,บริษัท แจแปน อิเลคทริคอล เทสติ้ง ลาบอราตอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท โกลบอล คอมไพลแอ็นซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ