“โคแสนล้าน” สรุปจบ ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ย 4.5% ใช้วัวเป็นหลักประกันได้

27 มี.ค. 2567 | 03:55 น.

โครงการ “โคแสนล้าน” ได้ข้อสรุปแล้ว หลังธ.ก.ส. เคาะอัตราดอกเบี้ย 4.5% ปลอดดอกเบี้ย 2 ปีแรก และวัวเป็นหลักประกันได้ รองนายกฯ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” พร้อมชงครม. สัปดาห์หน้า

วันนี้ (27 มีนาคม 2567) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานดำเนินโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง ซึ่งดูแลโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยล่าสุดที่ประชุมได้ข้อสรุปเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ คิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5% และสามารถนำวัวมาเป็นหลักประกันในโครงการได้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการโคแสนล้านนำร่องแล้ว เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาต่อจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับกองทุนหมู่บ้านฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งคณะทำงานชุดนี้ เพื่อพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ 

โดยเฉพาะกรณีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่รัฐต้องรับภาระชดเชย กรอบวงเงินงบประมาณ และกำหนดเวลาที่เกษตรกรต้องชำระคืนเงินกู้ โดยยอมรับว่า ในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ธ.ก.ส. ได้มีหนังสือแจ้งอัตราดอกเบี้ย กลับมายังกองทุนหมู่บ้านฯแล้ว อยู่ที่ 5.46 % ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังมีความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ยังคิดในอตราที่ค่อนข้างสูง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้หารือกับผู้บริหาร ธ.ก.ส.จนได้ข้อยุติเรื่องอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง จะอัตราดอกเบี้ย 4.5% และไม่มีอัตราชดเชยหนี้เสีย (NPL) เพราะสามารถนำวัวเป็นหลักประกันได้ ซึ่งถ้าเกษตรกรขายวัว ก็ต้องคืนเงินกู้ และยังเสนอแนะให้กองทุนหมู่บ้านฯ ติดตามผลการดำเนินโครงการกับผู้เข้าร่วมโครงการอย่างใกล้ชิด พร้อมฝากช่วยดูตลาดรองรับด้วย

สำหรับขั้นตอนต่อไป ภายหลังได้ข้อสรุปเรื่องดอกเบี้ยในโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่องแล้ว จะนำรายละเอียดเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยมีข้อสรุปอัตราดอกเบี้ย อยู่ที่ 4.5% ซึ่ง 2 ปีแรกปลอดดอกเบี้ย ส่วนปีที่ 3 มีดอกเบี้ย ปีที่ 4 ต้องจ่ายคืนเงินต้น 50% พร้อมดอกเบี้ย และปีที่ 5 จ่ายคืนทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ย โดยมีระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ 1 ปี