นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 1 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท เพื่อกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ คาดว่าประชาชนจะให้ความสนใจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรุ่นดังกล่าวนี้ สูงกว่าการเปิดจำหน่ายในช่วงโควิดด้วย
“พันธบัตรออมทรัพย์ยังได้รับความสนใจจากประชาชน เนื่องจากผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยสูง และมีความแน่นอน มั่นคงในการชำระคืน ขณะเดียวกัน หากเทียบอัตราผลตอบแทนเงินฝาก ดอกเบี้ยเฉลี่ย อยู่ที่ 2.6-2.7% เท่านั้น”
ทั้งนี้ แบ่งเป็น การจำหน่ายให้กับประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
1. วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท
หมายเหตุ ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และเติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่าน Mobile Banking หรือผูกบัญชีธนาคารกรุงไทย รวมถึงเติมเงินด้วย Wallet ID ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
2. การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงิน 25,000 ล้านบาท ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, และธนาคารไทยพาณิชย์
สำหรับการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชน วันที่ 11 - 13 มี.ค.นี้ จะใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (ทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท ซึ่งลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรร
ในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย
ทั้งนี้ ผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืน กรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 14 มีนาคม 2567
นอกจากนี้ ยังได้เปิดจำหน่ายให้กับสภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร วงเงิน 5,000 บาท