DSI จับกุมผู้ต้องหานำเข้ารถหรู "ปอร์เช่คาเยนน์"เลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท

17 ก.พ. 2567 | 12:05 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2567 | 12:05 น.

DSI จับผู้ต้องหานำเข้ารถหรูปอร์เช่คาเยนน์ โดยร่วมกันหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียภาษีกว่า 10 ล้านบาท

วันนี้ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวรัญชยา หรือนางสาวกนิษฐา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 3714/2566 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ในคดีพิเศษที่ 31/2565

โดยผู้ต้องหาเป็นบริษัทนำเข้ารถหรูยี่ห้อปอร์เช่คาเยนน์ (PORSCHE CAYENNE) หลีกเลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท เจ้าพนักงานผู้จับกุม จึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 243 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 253 (เดิมคือ มาตรา 27 มาตรา 115 จัตวา แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83  ซึ่งเจ้าพนักงานจับกุมได้ที่บริเวณริมฟุตบาทข้างถนนในซอยทิพย์วารีแขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนครกรุงเทพมหานคร
 

DSI จับกุมผู้ต้องหานำเข้ารถหรู "ปอร์เช่คาเยนน์"เลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคหนึ่งและวรรคสอง และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว รวมทั้งได้แจ้งไปยังพนักงานอัยการและสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ในเขตกรุงเทพมหานคร และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 09.50 น. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบสำนวน ได้รับตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกการจับกุมเพื่อนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

DSI จับกุมผู้ต้องหานำเข้ารถหรู "ปอร์เช่คาเยนน์"เลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท
 

การดำเนินการในการติดตามกับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของพันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป