“หมีคุมะมง” จับมือขับเคลื่อน “ซอฟต์พาวเวอร์” ไทย-ญี่ปุ่น

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายคิโยชิ อุชิดะ หัวหน้าสำนักงาน จังหวัดคุมาโมโตะ พร้อมด้วย คณะ Kumamon Group (คุมะมง กรุ๊ป) สำนักงานคุมาโมโตะ ได้เข้าพบบุคลากร กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ  เพื่อหารือเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนไทย โดยนางสาวอาภรณ์  เพชรรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนางสาวจันทิมา โจนส์  ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิเทศสัมพันธ์ กองแผนงาน เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ว่า คณะ Kumamon Group สำนักงานคุมาโมโตะ ประสงค์เข้าพบหารือกับหน่วยงานด้านการส่งเสริมผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนของไทย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมงาน Japan Expo โดยกระทรวงต่างประเทศ เห็นว่า คณะ Kumamon Group ประสบความสำเร็จในการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการตลาดผ่านการสร้างมาสคอต (Mascot) นาม “หมีคุมะมง” ประจำจังหวัดคุมาโมโตะ อันเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การพบปะและสร้างเครือข่ายระหว่างคณะ Kumamon Group กับกรมการพัฒนาชุมชน จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการท้องถิ่น จึงจัดให้มีการพบปะระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนกับคณะ Kumamon Group สำนักงานคุมาโมโตะในครั้งนี้

นายคิโยชิ อุชิดะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดคุมาโมโตะ เปิดเผยว่า ภายใต้กรอบของการพัฒนาชุมชน ประเทศญี่ปุ่นมุ่งเน้นในการส่งเสริมสนับสนุนในด้านของประชากรและเกษตรกร และยังมี 3 ประเด็น ได้แก่ การศึกษา การพยาบาล และการท่องเที่ยว ที่จะเน้นการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที โดยมีการประสานงานกับรัฐบาล หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ถอดบทเรียนและรวบรวมปัญหาส่งไปยังรัฐบาลกลาง เพื่อให้ร่วมแก้ไขปัญหาได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังกล่าวชื่นชมว่า รู้สึกประทับใจการปฏิบัติงาน และการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ด้านนางสาวอาภรณ์  เพชรรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนยังคงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ได้รับแรงบันดาลใจสำคัญมาจากแนวคิด One Village, One Product (OVOP) จากจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง จากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน และนำคุณค่าของภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและประเทศชาติ

ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ยังคงส่งเสริม พัฒนา ต่อยอดโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดประเภท (Classification) ทั้งผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย (OTOP Product Champion : OPC) การส่งเสริมการตลาดทั้งออนไซต์และออนไลน์ การส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี รวมถึงการฝึกทักษะ จัดการฝึกอบรมให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีความรู้รอบด้านในเรื่องของการพัฒนา ต่อยอด ผลิตภัณฑ์และธุรกิจชุมชน

ขณะที่คณะ Kumamon Group ให้ความคิดเห็นว่า อยากให้ Kumamon และประเทศไทย ได้ปฏิบัติงานร่วมกันเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ได้เสนอว่า อยากนำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ให้เป็นที่ประจักษ์ และขณะเดียวกันทางคณะก็อยากเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยอยากให้มาสคอตหมีคุมะมง (Kumamon) เป็นทูตทางวัฒนธรรม (Ambassador) ด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นด้วย

ด้านกรมการพัฒนาชุมชน แนะนำว่า อยากเชิญชวนคณะ Kumamon Group มาเยี่ยมชมการจัดแสดงและจัดจำหน่ายระดับประเทศของโครงการ OTOP เช่น การจัดงาน OTOP ทั้ง 3 กิจกรรม ได้แก่

• OTOP Midyear
• ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี
• และ OTOP City

รวมถึงการเยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งมีมากถึง 3,860 หมู่บ้านในปัจจุบัน