ครม.สัญจร ระนอง จัดหนักดันถนน-ท่าเรือ นายกฯ ลงพื้นที่เช็ค “แลนด์บริดจ์”

19 ม.ค. 2567 | 08:05 น.

ครม.สัญจร ระนอง พร้อมดันสารพัดโครงการพัฒนาภาคใต้ 6 จังหวัด ดันสร้างถนน - ท่าเรือ กระตุ้นเดินทางท่องเที่ยว คณะนายกฯ “เศรษฐา” คิวแน่น 2 วัน 22 - 23 ม.ค.2567 ลงพื้นที่ตรวจเช็คโครงการ “แลนด์บริดจ์”

KEY

POINTS

  • ภารกิจนายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ยกคณะลงพื้นที่ ประชุม ครม.สัญจร จังหวัดระนอง วันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 คิวแน่นตลอด 2 วัน โดยเตรียมผลักดันการท่องเที่ยว แก้ปัญหาภาคการประมง ติดตามโครงการสำคัญของรัฐบาล
  • จับตา นายกฯ พร้อมคณะ มีคิวเดินทางลงพื้นที่ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ มูลค่านับล้านล้านบาท ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกระเปอร์ จังหวัดระนอง
  • ไฮไลท์วันประชุม ครม.สัญจร เตรียมรับข้อเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยว พร้อมโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม จากระนอง - พังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด - หลังสวน
     

วันนี้ (19 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จังหวัดระนอง ถือเป็นครั้งที่สองของรัฐบาล

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดระนองครั้งนี้ มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยกำหนดการวันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 มีดังนี้

 

ครม.สัญจร ระนอง จัดหนักดันถนน-ท่าเรือ นายกฯ ลงพื้นที่เช็ค “แลนด์บริดจ์”

 

วันที่ 22 มกราคม 2567 

นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง – เกาะสอง อำเภอเมืองระนอง และพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง ซึ่งท่าเรือระนอง - เกาะสอง ตำบลปากน้ำ เป็นจุดผ่านแดนที่ใช้รองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทยและเมียนมา โดยเป็นท่าเรือข้ามฟาก ขนส่งและท่องเที่ยว 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการพัฒนาท่าเรือระนอง - เกาะสอง ข้อมูลการค้าผ่านแดนระหว่าง 2 ประเทศ แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพบปะประชาชนกลุ่มประมงและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี จะได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกระเปอร์ จังหวัดระนอง โครงการแลนด์บริดจ์เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม โดยการเชื่อมโยง 2 ท่าเรือในฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยให้เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 

โดยมีการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง ในรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) หากโครงการนี้เสร็จจะช่วยสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 

ทั้งนี้รัฐบาลมีความตั้งใจจะมีแผนงานเร่งรัดพัฒนาศักยภาพทางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างเงินการลงทุน และการใช้จ่ายเข้าสู่ประเทศได้ด้วยความรวดเร็ว ตามศักยภาพของพื้นที่ต่าง ๆ 

อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยจะเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ณ บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อำเภอเมืองระนอง ซึ่งมีบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดที่มีการชูอัตลักษณ์ชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 

โดยรัฐบาลจะผลักดันจังหวัดระนองสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก (Wellness City)  ต่อยอดพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน สร้างจุดแข็ง นำรายได้เข้าประเทศ

 

ครม.สัญจร ระนอง จัดหนักดันถนน-ท่าเรือ นายกฯ ลงพื้นที่เช็ค “แลนด์บริดจ์”

 

วันที่ 23 มกราคม 2567

นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยจังหวัดระนองเตรียมนำเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร เป็นโครงการปรับปรุงทางเข้าท่าเรือและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากท่าเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา 

รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จากจังหวัดระนอง-จังหวัดพังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด-หลังสวน (ทางหลวงหมายเลข 4006) ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร จากอำเภอเมืองระนอง ไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองระนอง 

นายชัย กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดระนองครั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ซึ่งแต่ละจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เอื้อกับการเดินทางและเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 

ทั้งนี้จะเห็นว่ารัฐบาลเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เช่น การวางโครงข่ายการคมนาคม สร้างระบบรางรถไฟที่พาดผ่านเมืองรอง และการพัฒนาสนามบินในภูมิภาคการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสร้างรายได้และมีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายคณะรัฐมนตรีร่วมลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ด้วย

 

โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์