กนช. จัดหนักอนุมัติแผนน้ำ ปี 2568 เฉียด 4 แสนล้าน

25 ธ.ค. 2566 | 09:36 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2566 | 13:22 น.

คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 57,393 รายการ วงเงิน 392,510 ล้านบาท สั่งจัดลำดับความสำคัญขอรับงบประมาณ

วันนี้ (25 ธันวาคม 2566) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2568 ทั้งกลุ่ม Y1 และ Y2 โดยได้พิจารณากลั่นกรองแล้ว เหลือจำนวน 57,393 รายการ วงเงิน 392,510 ล้านบาท 

ทั้งนี้คาดว่า จะช่วยเพิ่มความจุเก็บกัก 1,352 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 6.77 ล้านไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกัน 5.71 ล้านไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 4.92 ล้านครัวเรือน 

โดยที่ประชุม ได้เห็นชอบให้ กลุ่ม Y1 ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เป็นลำดับต้น เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนกลุ่ม Y2 เห็นควรใช้เป็นแผนงานโครงการสำรอง โดยให้หน่วยงานนำไปขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามความเหมาะสม

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)

 

ส่วนการแก้ปัญหาน้ำประปา หลังหลายแห่งไม่สามารถใช้การได้นั้น ผมมองเห็นว่า การดูแลระบบน้ำประปา ควรถ่ายโอนให้กองทุนหมู่บ้านฯเป็นผู้ดูแล เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะทำให้ประปาหมู่บ้าน สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมา ระบบน้ำประปาขาดการซ่องบำรุงรักษา 

“ผมเป็นประธานกรรมการกระจายอำนาจฯ ก็จะเข้าไปช่วยดูว่า สามารถทำได้หรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นหน่วยงานที่ผมกำกับดูแล ทั้ง สทนช. กองทุนหมู่บ้าน การกระจายอำนาจ ก็อยากให้มีการบูรณาการ เพื่อทำให้ปัญหาของประชาชน ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)

 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทย อากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ สทนช.ต้องทำงานอย่างหนักทั้งปี เพราะถึงแม้ภาคเหนือ ภาคกลาง จะมีอากาศหนาว แต่ภาคใต้ มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยตนขอเน้นย้ำให้ สทนช. เร่งสื่อสารเรื่องสภาพอากาศให้ประชาชนเข้าใจโดยง่าย เพื่อที่จะได้สามารถเตรียมการรับมือได้ทัน รวมถึงจากนี้ 

ทั้งนี้ยังได้ขอฝากให้ สทนช. ต้องคิดในการดักปัญหาล่วงหน้าด้วย เพราะบางประเทศ ได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย จึงทำให้การแก้ปัญหาโลกร้อน สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้น การดักปัญหาล่วงหน้า ก็คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งตนขอมอบให้กระทรวงเกษตรฯรับผิดชอบการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ และขอตั้งอนุกรรมการฯเพื่อขับเคลื่อนศึกษาในเรื่องนี้