สรท. 26 สถาบันแพทย์ออกแถลงจุดยืน "ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า"

วันนี้ 27 พฤศจิกายน 2566 แถลงการณ์ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์ไทย ในพระอุปถัมภ์ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เรื่อง แถลงการณ์เนื่องในงานรัฐสภาปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน การใช้บุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้ากระทบต่อสุขภาพของประชาชนไทยเป็นอย่างมาก อาทิ ปอดอักเสบจากการใช้บุหรี่ ไฟฟ้า หรือ E-cigarettes or vaping product use associated lung injury (EVALI) เป็นต้น

นอกจากนี้การควบคุมการใช้บุหรี่ ทุกชนิดในที่สาธารณะ หรือที่เขตปลอดบุหรี่ไม่ได้การบังคับใช้อย่างเข้มงวด ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากกลายเป็นผู้สูบบุหรี่มือสอง โดยปริยาย นอกจากนี้เด็กและเยาวชนจำนวนมากมีการเริ่มใช้บุหรี่ตั้งแต่ในวัยประถมศึกษา โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีภาพลักษณ์ว่าการ สูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวน รวมถึงรูปลักษณ์ สีสันสวยงาม มีกลิ่นหอม กฏหมาย “ห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า” ที่ถูกนำมาเป็นที่ถกเถียงในปัจจุบันนี้ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศ ไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอให้มีการทบทวนในประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• ระวัง สูบ “บุหรี่ไฟฟ้า” เสี่ยงเกิด “ภาวะซึมเศร้า” สูงถึง 2.39 เท่า

1.ผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนไทยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และเยาวชน ย่อมน่าเป็นกังวลมากขึ้น หากการใช้บุหรี่ ไฟฟ้าสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย แม้ปัจจุบันนี้ยังไม่ถูกกฎหมายก็พบว่ายังมีการลักลอบนำเข้า ซื้อขาย และใช้อย่างแพร่หลายในเด็ก และเยาวชน

2, ทางภาครัฐต้องบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการใช้ในเด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงวางแผนจัดการความ เสี่ยงที่จะซ้ำเติมการเสพติดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กเล็กและเยาวชน

3.การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ต้องมี รายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบจากธุรกิจยาสูบ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องในโอกาสวันสาธารณสุขแห่งชาติ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอเรียกร้องให้รัฐสภาเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ที่ห้ามสูบในสถานที่ราชการ เพื่อเคารพกฎหมายและเป็นแบบอย่างแก่เด็กและเยาวชนไทย อนึ่ง สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายในการ รณรงค์เรื่องบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยต่อไป ไม่สนับสนุนให้มีการใช้บุหรี่ทุกชนิด เพื่อสุขภาพของประชาชนไทย โดยมิได้ เกี่ยวข้องกับกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อให้การรณรงค์เพื่อลดการสูบบุหรี่ในประเทศไทยเกิดผลที่ยั่งยืนที่สุด จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

 ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์

ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า  ขอต้อนรับ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีที่ออกแถลงการณ์ "ขอให้รัฐสภา ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า" การออกมาร่วมขับเคลื่อนรณรงค์ไม่สูบบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า ของนักศึกษาแพทย์ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะนิสิตเหล่านี้จะจบการศึกษาเป็นแพทย์ในอนาคตอันใกล้นี้ การออกมาร่วมขับเคลื่อนเพื่อให้สังคมไทยปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า จะทำให้ความพยายามที่จะนำประเทศไทย สู่สังคมปลอดบุหรี่ มีแนวร่วมที่สำคัญเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้เรามีนักศึกษาแพทย์ชั้นปีละประมาณ 3 พันคน รวม 6 ชั้นปีจะมีนักศึกษาแพทย์ไทยทั้งหมด 18,000 คน ถ้าทุกคนช่วยกันพูดคนละนิดคนละหน่อย ถึงอันตรายของการสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า จะส่งผลดีมหาศาล ในการป้องกันการริเริ่มสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ

 ยิ่งหากรวมนักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพสาขาอื่น ๆ ตั้งแต่ทันตแพทย์ เภสัช พยาบาล สาธารณสุข ฯลฯ จะยิ่งเป็นพลังทวีคู  องค์การอนามัยโลกจึงสนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำรวจอัตราการสูบบุหรี่/ความรู้เกี่ยวกับยาสูบและสุขภาพ ในนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพทุก 5 ปี  เป็นความจริงที่นักศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ยังมีที่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า แต่อัตราการสูบจะต่ำกว่านักศึกษาสาขาทั่วไป และส่วนใหญ่ติดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ก่อนเข้ามาเป็นนักศึกษาสายสุขภาพ การเข้ามาร่วมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ของสหพันธ์นิสิตนักศึกแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ฯ จะทำให้นักศึกษาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ยังสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เลิกสูบง่ายขึ้นอีกด้วย.