“คลัง” เล็งดึงเจ้าหนี้นอกระบบจดทะเบียน “พิโกไฟแนนซ์” เพิ่ม

25 พ.ย. 2566 | 05:08 น.

คลังรายงาน “พิโกไฟแนนซ์” ปล่อยสินเชื่อแล้ว 3.5 หมื่นล้านบาท ระบุมีธุรกิจเข้ามาเปิดกิจการ 1,129 ราย ขานรับนโยบายรัฐ เล็งดึงเจ้าหนี้นอกระบบจดทะเบียนเพิ่ม ชูปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูงสุด 36%

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนก.ย.66 มีผู้ประกอบธุรกิจที่เปิดดำเนินการสะสมสุทธิ 1,129 ราย กระจายอยู่ทุกภาคใน 75 จังหวัด (ยกเว้นจังหวัดอ่างทองและจังหวัดสิงห์บุรี)

ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 631 ราย รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง 207 ราย, ภาคเหนือ 152 ราย, ภาคตะวันออก 79 ราย, และภาคใต้ 60 ราย 

นอกจากนี้ ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3.69 ล้านบัญชี รวมเป็นวงเงิน 35,590 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็น สินเชื่อแบบมีหลักประกัน 13,303 ล้านบาท และสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน 22,286 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ มีจำนวน 4,057 ล้านบาท, ลูกหนี้ที่ค้างชำระ 1-3 เดือน (S-M) 887 ล้านบาท คิดเป็น 13.78% และเป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 1,498 ล้านบาท คิดเป็น 23.25%

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงการคลังจะใช้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการดึงให้ผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบ เข้ามาจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมากยิ่งขึ้น เพราะปัญหาหนี้นอกระบบส่วนใหญ่ เกิดจากการปล่อยสินเชื่อที่คิดดอดเบี้ยโหด เกินกฎหมายที่กฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ กำหนดให้คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 15%

ทั้งนี้ กลไกของพิโกไฟแนนซ์ถือว่ากำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด เมื่อเทียบกับการให้บริการสินเชื่อที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว โดยกลุ่มสินเชื่อพีโลน การกำหนดเพดานดอกเบี้ยก็ไม่เกิน 22-25%

ขณะที่สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์นั้น หากผู้ประกอบธุรกิจเงินกู้นอกระบบเข้ามาเปิดกิจการ จะได้รับการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 36% ปล่อยสินเชื่อได้สูงสุด 50,000 บาท ส่วนกรณีเป็นสินเชื่อพิโกพลัส ผู้ประกอบการสามารถปล่อยสินเชื่อได้สูงสุดถึง 100,000 บาท โดยส่วนที่เกิน 50,000 บาทขึ้นไป จะคิดอัตราดอกเบี้ยในเรทไม่เกิน 28%

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้เตรียมออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ได้รับความเป็นธรรมในการแข่งขันธุรกิจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกระทรวงการคลังเห็นแนวโน้มผู้ประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์มีการขยายธุรกิจย่อยในจังหวัดที่จดทะเบียน ซึ่งตามเกณฑ์ของการประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง จึงจะมีการออกหลักเกณฑ์ส่วนนี้มาเพื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กในจังหวัดเดียวกันได้รับความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น และทำให้การแข่งขันเรื่องอัตราดอกเบี้ยถูกลง

“ผู้ประกอบการธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถเปิดสาขาในจังหวัดที่ได้รับอนุญาตได้ แต่ไม่สามารถเปิดสาขาข้ามจังหวัดได้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่ ในจังหวัดใหญ่ๆ บางแห่ง มีการเปิดบริษัทเพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์มากกว่าหนึ่งแห่งในจังหวัดเดียวกัน ส่งผลให้คลังออกหลักเกณฑ์ควบคุมในส่วนนี้ และอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถไปเปิดบริษัทในจังหวัดอื่นได้"

อย่างไรก็ตาม หากต้องการขยายบริษัทในจังหวัดเดิมที่ได้รับอนุญาต ก็ให้เปิดเป็นสาขาในจังหวัดนั้นแทนการจัดตั้งบริษัทใหม่ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจสินเลื่อพิโกไฟแนนซ์ สามารถยื่นขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง