รัฐบาลตอบแล้ว 13 คำถามคาใจ เงินดิจิทัล 10000 บาท

11 พ.ย. 2566 | 12:07 น.

รัฐบาลตอบคำถามคาใจเกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท ฉบับประชาชน หลังประกาศไทม์ไลน์ลงทะเบียนและข้อกำหนดล่าสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 66

รัฐบาลได้ออกโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อจุดประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียน

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงผลสรุปการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet รวมถึงได้ตอบคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน

ฐานเศรษฐกิจได้รวบรวม 13 คำถามที่ทุกคนคาใจมาไว้ให้แล้ว

1. ทำไมต้องเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 1. ทำไมต้องเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet?

  1. เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2566 โตต่ำกว่าที่คาด : โดยขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี ต่ำกว่าไตรมาสที่ 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.6 ต่อปี ซึ่งหน่วยงานคาดว่าต้นปีจะฟื้นตัวดีขึ้น

  2. เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มีสัญญาณฟื้นตัวช้า : การส่งออก การผลิตสินค้า และรายได้เกษตรกรยังคงหดตัว การท่องเที่ยวก็ขยายตัวชะลอลงมาก จึงต้องมีการปรับลดเป้า

  3. การลงทุนภาครัฐยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ : ผลของการจัดทำงบประมาณล่าช้า 7 เดือน ทำให้การลงทุนของภาครัฐช่วงปลายปี 2566 ต่อเนื่องไปยังต้นปี 2567 อัดฉีดเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่

  4. มีปัจจัยภายนอกรุมเร้า : เช่น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสงครามอิสราเอล-ฮามาส

  5. การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ ปัจจัยข้างต้นทำให้ สศช. ธปท. ก.คลัง และ IMF ทยอยปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 ลงมาต่ำกว่าร้อยละ 3 ส่วนปี 2567 ไม่เกินร้อยละ 3.5

  6. ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงยาวนาน : สัดส่วนหนี้ครัวเรือนสูงกว่ำร้อยละ 90 ของ GDP และนับตั้งแต่ปี 2559 สะท้อนรายได้โตไม่ทันภาระหนี้

  7. ปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื้อรัง : รายได้คน 20% บนสุด กับรายได้คน 20% ล่างสุด ยังต่างกัน 9 เท่า สะท้อนว่ายังมี “ช่องว่าง” ระหว่างคนรวยและคนจน 

2. ทำไมต้องเติมเงิน 10,000บาท ผ่าน Digital Wallet 2. ทำไมต้องเติมเงิน 10,000บาท ผ่าน Digital Wallet
วัตถุประสงค์
1. มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่/ชุมชน เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
2. บรรเทำภาระค่าครองชีพ/ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่กลุ่มที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ
3. สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน
4. พัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้ำนเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

3. ใครได้รับเงินบ้าง? 3. ใครได้รับเงินบ้าง?

  • บุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป 
  • มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน
  • มีเงินฝากในบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

4.ทำไมไม่ให้ทุกคน? 4.ทำไมไม่ให้ทุกคน?

  • เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มที่ หากไม่กระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตไม่เต็มศักยภาพและเป็นวัฏจักรไม่รู้จบ และเพื่อเอาเงินที่จะให้คนกลุ่มนี้ไปทำประโยชน์อื่นให้แก่ประเทศ 

5.นโยบาย Digital Wallet เอาเงินมาจากไหน ใช้ทำอะไร? 5.นโยบาย Digital Wallet เอาเงินมาจากไหน ใช้ทำอะไร?

  • มีกฎหมายกู้เงิน 500,000 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ. วินัยการเงิน พ.ศ. 2561 งบประมาณรายจ่ายปี 2567 100,000 ล้านบาท และมีแผนในการในระยะสั้นคือ การทำ Digital Wallet 500,000 ล้านบาท 

6.ทำไมต้องออกกฏหมายกู้เงิน? 6.ทำไมต้องออกกฏหมายกู้เงิน?

  • เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังตามรัฐธรรมนูญมาตรา 62 
  • ผ่านการตรวจสอบจากรัฐสภาเต็มรูปแบบ 
  • ใช้เงินใหม่ไม่เจียดมาใช้เงินเดิม (งบประมาณ)
  • สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลง (หาก GDP เพิ่มขึ้นมากกว่าหนี้สาธารณะ)

7.โครงการเริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อใด? 7.โครงการเริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อใด?

  • มีนาคม 2567 : ลงทะเบียน ยืนยันใช้สิทธิโดยยึดอำเภอตามทะเบียนบ้าน
  • พฤษภาคม - มิถุนายน 2567 : เริ่มใช้เงินครั้งแรก
  • ตุลาคม 2567 : ระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินของประชาชน
  • เมษายน 2570 : ระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินของร้านค้า
  • โดยประชาชนใช้จ่ายภายในอำเภอตามทะเบียนบ้าน ขณะที่ร้านค้าใช้จ่ายได้ทั่วประเทศ

8.ใครไปขึ้นเงินได้บ้าง? 8.ใครไปขึ้นเงินได้บ้าง?

  • ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ที่สามารถขึ้นเงินได้

9.ใครเป็นคนสร้างระบบ ระบบที่ว่าเป็นอย่างไร? 9.ใครเป็นคนสร้างระบบ ระบบที่ว่าเป็นอย่างไร?

  • ใช้แอปพลิเคชันใหม่ 

  • ใช้ฐานข้อมูลประชาชนและร้านค้าจากระบบเดิม (เพื่อความสะดวกของประชาชนและร้านค้า) และเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติม 

  • ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อสร้าง Digital Economy ในอนาคต

  • โปร่งใส ปลอดภัย ตรวจสอบได้


10.โครงการนี้ดีต่อเศรษฐกิจและชุมชน / ท้องถิ่นอย่างไร?

10.โครงการนี้ดีต่อเศรษฐกิจและชุมชน / ท้องถิ่นอย่างไร?

ประชากรมีเงินใช้จ่ายบรรเทาภาระค่าครองชีพ

  • ตรงเป้า : บรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต
  • เท่าเทียม : มีความหลากหลายอายุและอาชีพ
  • ทั่วถึง : กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ 
  • ร้านค้า ชุมชน ท้องถิ่นมีรายได้

 

11.โครงการนี้แตกต่างจากโครงการที่ผ่านมาอย่างไร? 11.โครงการนี้แตกต่างจากโครงการที่ผ่านมาอย่างไร?

  • มีการล็อคเป้าพื้นที่เพื่อให้เงินหมุนเวียนอยู่ในแต่ละอำเภอ / จังหวัด พร้อม ๆ กันทั่วประเทศ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่นั้นๆ พร้อมๆ กันทั่วประเทศ

12.หลังจบโครงการประชาชนจะเห็นอะไร? 12.หลังจบโครงการประชาชนจะเห็นอะไร?

  1. เศรษฐกิจจะขยายตัวมากขึ้น

  2. การบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริงขยายตัวมากขึ้น

  3. ภาษีมูลค่าเพิ่มบนฐานการบริโภคเพิ่มขึ้น

  4. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น

  5. ความเชื่อมันอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคสูงขึ้น

  6. ความเชื่อมั่น MSMEs สูงขึ้น

  7. ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้น

  8. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมบางสินค้าสูงขึ้น

  9. เงินเฟ้อผู้บริโภคและผู้ผลิตอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

  10. การจ้างงานเพิ่มขึ้น

  11. หนี้ครัวเรือนลดลง

13.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีเท่านี้หรือ? 13.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีเท่านี้หรือ?
โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นเพียง 1 ใน Package ของนโยบายรัฐเท่านั้น โดยจะมีการกระตุ้นและสนับสนุนในภาคส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม

  • กระตุ้น/สนับสนุน การบริโภคภาคเอกชน (54%)
  • โครงการเติมเงิน Digital Wallet
  • การพักหนี้เกษตรกร
  • การบรรเทาค่าครองชีพ
  • ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน
  • ส่งเสริมการออม
  • กระตุ้น/สนับสนุน การลงทุน (18%)
  • การค้ำประกันสินเชื่อ SMEs
  • ใช้กองทุนขยายโอกาสให้แก่ประชาชน
  • สนับสนุน Startup
  • ภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม 
  • กระตุ้น/สนับสนุน การใช้จ่ายภาครัฐ (23%)
  • เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ
  • ส่งเสริมการลงทุน สนับสนุน EEC 
  • ผลักดัน Land Bridge
  • สนับสนุน Soft Power และ OTOP
  • เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้
  • ปรับโครงสร้างรายได้รัฐบาล
  • ปรับปรุงรายจ่ายสวัสดิการเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางการคลัง
  • ใช้เครื่องมือทางการคลังสนับสนุนสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • กระตุ้น/สนับสนุน การส่งออกสินค้าและบริการ (68%)
  • การสร้างบทบาทไทยในเวทีโลก
  • ความร่วมมือทางการค้าและการเงินระหว่างประเทศ