ไทยยังเนื้อหอม ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนกว่า4.8หมื่นล้าน

19 ก.ค. 2566 | 03:09 น.

ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนในไทย 48,927 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 17,527 ล้านบาท ตามด้วย จีน 11,505 ล้านบาท และสิงคโปร์ 6,916 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,222 คน พื้นที่อีอีซียังมีนักลงทุนในใจ ลงทุนต่อเนื่อง

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม - มิถุนายน) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 326 ราย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 102 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 224 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 48,927 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,222 คน

 

 ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 74 ราย เงินลงทุน 17,527 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 59 ราย  เงินลงทุน 2,913 ล้านบาท สิงคโปร์ 53 ราย เงินลงทุน 6,916 ล้านบาท จีน 24 ราย เงินลงทุน 11,505 ล้านบาท และ สมาพันธรัฐสวิส 14 ราย เงินลงทุน 1,857 ล้านบาท

ไทยยังเนื้อหอม ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนกว่า4.8หมื่นล้าน

โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาในการใช้งานยางล้ออากาศยาน เป็นต้น

ไทยยังเนื้อหอม ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนกว่า4.8หมื่นล้าน

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 42 ราย หรือ15%  โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปี 2565  ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่EEC จำนวน 61 ราย หรือ19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC  10,771 ล้านบาท หรือ 22% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 26 ราย ลงทุน 4,344 ล้านบาท จีน 9 ราย ลงทุน 752 ล้านบาท เกาหลีใต้ 5 ราย ลงทุน 286 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 21 ราย ลงทุน 5,388 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน เช่น บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ  บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์   บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะและ การค้าระหว่างประเทศ

ไทยยังเนื้อหอม ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนกว่า4.8หมื่นล้าน

โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ  เฉพาะเดือนมิถุนายน 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 52 ราย เป็นการลงทุนผ่านการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 15 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 37 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,535 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 223 คน

ไทยยังเนื้อหอม ครึ่งปีแรก66 ต่างชาติลงทุนกว่า4.8หมื่นล้าน

ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน และองค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

  สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่  บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทยบริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง  บริการทางวิศวกรรม โดยการให้คำปรึกษาแนะนำ วางแผน ตรวจสอบ บริหารจัดการงานออกแบบ และงานโยธาก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน บริการรับจ้างออกแบบผลิตภัณฑ์ Filter บริการกิจการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENT เป็นต้น