“จุรินทร์”หวังดึงทุนจีนเข้าไทยในประชุมนักลงทุนจีนโลก24-26มิ.ย.นี้

19 มิ.ย. 2566 | 04:42 น.

ประชุมนักธุรกิจจีนโลกครั้งที่ 16  “จุรินทร์”หวังดึงทุนจีนเข้าไทย หารือถึงแนวทางการค้า เตรียมพร้อมรับมือวิกฤตในอนาคต แลกเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนแนวใหม่ในยุคดิจิทัล ยกระดับศักยภาพนักธุรกิจจีนในไทยและทั่วโลก 4 เดือนไทยมีการค้ากับจีนพุ่ง2.1%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าวันที่24-26มิ.ย.66  จะไปเป็นประธานเปิดงานประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลกครั้งที่ 16 และกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องการค้าเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยการจัดการประชุมครั้งนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์และโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศไทยและจีนมากขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยการค้าไทย-จีนในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย. 66) มีมูลค่า 43,411.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1% โดยจีนส่งออกมาไทยคิดเป็นมูลค่า 26,979.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% และจีนนำเข้าจากไทยมูลค่า 16,431.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ประธานจัดงานการประชุมนักธุรกิจจีนโลก ครั้งที่ 16 กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นประเทศคู่ค้าของไทยอันดับต้น ๆ ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้นกว่า 45 ปี ทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้ประชากรจีนเดินทางท่องเที่ยวในไทยเป็นประเทศแรก ๆ

“จุรินทร์”หวังดึงทุนจีนเข้าไทยในประชุมนักลงทุนจีนโลก24-26มิ.ย.นี้

ดังนั้น เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน พร้อมทั้งฟื้นเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย หอการค้าไทย-จีน จึงจัดงานประชุมนักธุรกิจจีนโลกครั้งที่ 16 เพื่อหารือถึงแนวทางการค้า เตรียมพร้อมรับมือวิกฤตในอนาคต แลกเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนแนวใหม่ในยุคดิจิทัล ยกระดับศักยภาพนักธุรกิจจีนในไทยและทั่วโลก ตลอดจนวางแผนขยายการทำธุรกิจระหว่างประเทศได้อย่างมั่นคง

การประชุมนักธุรกิจจีนโลก หรือ World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC เป็นเวทีประชุมผู้ค้าชาวจีนจากทุกประเทศทั่วโลกที่จัดขึ้นทุก 2 ปี โดยในปีนี้หอการค้าไทย-จีน จัดการประชุมขึ้น โดยมุ่งสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการจีนทั่วโลก ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับนานาประเทศ