“ไก่-เครื่องประดับ”โอกาสสินค้าไทยเจาะตลาดตะวันออกกลาง

10 พ.ค. 2566 | 02:40 น.

สนค. แนะ “ไก่” และ “เครื่องประดับ” เป็นสินค้าไทยที่มีโอกาสเจาะตลาดในตะวันออกกลางสูง “ผลไม้กระป๋อง” และ “อาหารทะเลกระป๋อง”  เป็นสินค้าไทยครองแชมป์หลายตลาดในตะวันออกกลาง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์ตลาดตะวันออกกลาง 3 ประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และกาตาร์ ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่จะผลักดันการส่งออกในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยนำข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเชิงลึกจาก Global Demand Dashboard ในเว็บไซต์ คิดค้า.com พบว่า ไก่มีโอกาสส่งออกไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางได้เพิ่มมากขึ้นจากอานิสงส์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย และ เครื่องประดับ มีโอกาสเจาะตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางจากกำลังซื้อกลุ่มผู้บริโภคในตะวันออกกลางที่มีค่อนข้างสูง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

 

สำหรับแนวโน้มตลาดของ 3 ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2565 มีรายละเอียดดังนี้ตลาดซาอุดีอาระเบีย ตลาดซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดสำคัญที่ไทยมีโอกาสฟื้นฟูการค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย 

โดยที่ผ่านมาในปี 2565 มูลค่าการนำเข้าจากไทยขยายตัว 24.8%YOY จาก 2,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เป็น 2,827 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ทำให้ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 16 ของซาอุดีอาระเบีย มีส่วนแบ่งตลาดที่ 1.5% โดยมีสินค้าที่ไทยครองแชมป์ตลาดเป็นอันดับ 1 เช่น ผลไม้กระป๋อง และไฟเบอร์บอร์ด เป็นต้น และมีสินค้าดาวรุ่งที่มีแนวโน้มดี

“ไก่-เครื่องประดับ”โอกาสสินค้าไทยเจาะตลาดตะวันออกกลาง

และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เช่น อาหารทะเลแปรรูป และถุงมือยาง นอกจากนี้ สนค. แนะนำสินค้าไก่ ข้าว และผลไม้ เป็นสินค้าไทยที่มีโอกาสการค้าเพิ่มเติมในตลาดซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเป็นสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกสูง แต่ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าในตลาดซาอุดีอาระเบียต่ำกว่าส่วนแบ่งของไทยในตลาดโลก

ตลาดตุรกี

ตลาดตุรกีเป็นอีกตลาดในตะวันออกกลางที่น่าสนใจ เนื่องจากตุรกีถือเป็นฐานการกระจายสินค้าที่สำคัญไปยังตลาดยุโรป จึงมีความต้องการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตและกระจายสินค้าต่อไป โดยที่ผ่านมาในปี 2565 มูลค่าการนำเข้าจากไทยขยายตัว 17.4%YOY จาก 1,643 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เป็น 1,929 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ทำให้ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 36 ของตุรกี มีส่วนแบ่งตลาดที่ 0.5% โดยมีสินค้าที่ไทยครองแชมป์ตลาดเป็นอันดับ 1 เช่น ผลไม้กระป๋อง และยางพารา เป็นต้น และมีสินค้าดาวรุ่งที่มีแนวโน้มดีและมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง

นอกจากนี้ สนค. แนะนำสินค้ายางยานพาหนะ เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นสินค้าไทยที่มีโอกาสการค้าเพิ่มเติมในตลาดตุรกี เนื่องจากเป็นสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกสูง แต่ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าในตลาดตุรกีต่ำกว่าส่วนแบ่งของไทยในตลาดโลก

“ไก่-เครื่องประดับ”โอกาสสินค้าไทยเจาะตลาดตะวันออกกลาง

ตลาดกาตาร์

แม้ว่ากาตาร์จะเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงและพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยที่ผ่านมาในปี 2565 มูลค่าการนำเข้าจากไทยขยายตัว 13.8%YOY จาก 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เป็น 398 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ทำให้ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของกาตาร์ มีส่วนแบ่งตลาดที่ 1.2%  โดย อาหารทะเลกระป๋อง เป็นสินค้าไทยโดดเด่นที่สามารถครองแชมป์ตลาดกาตาร์เป็นอันดับ 1 รวมถึงมีแนวโน้มดีและมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สนค. แนะนำสินค้าไก่ และเครื่องประดับ เป็นสินค้าไทยที่มีโอกาสการค้าเพิ่มเติมในตลาดกาตาร์ เนื่องจากเป็นสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออกสูง แต่ไทยมีส่วนแบ่งการนำเข้าในตลาดกาตาร์ต่ำกว่าส่วนแบ่งของไทยในตลาดโลก

“ไก่-เครื่องประดับ”โอกาสสินค้าไทยเจาะตลาดตะวันออกกลาง

“ตลาดตะวันออกกลางเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามอง เพราะเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงและพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี สินค้าที่ไทยมีศักยภาพและมีประสบการณ์การค้าในตลาดโลกมีโอกาสที่จะเข้าไปเจาะตลาดตะวันออกกลางเพิ่มเติม โดยเฉพาะไก่ และเครื่องประดับ แต่ความท้าทายในการเจาะตลาดใหม่ คือ ไทยจะต้องชิงส่วนแบ่งจากแชมป์ตลาดเดิมให้ได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรปรับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดตะวันออกกลางด้วย เช่น การชูจุดแข็งเรื่องคุณภาพและมีมาตรฐานฮาลาลในระดับสากล”