ไขข้อสงสัย "ทุเรียนไร้หนาม"  คืออะไร ต่างจากพันธ์ปกติยังไง

19 เม.ย. 2566 | 03:24 น.

ทำความรู้จัก "ทุเรียนไร้หนาม" ที่กำลังเป็นกระแสของไทยเวลานี้ รสชาติจะเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ วิธีการทำทุเรียนไร้หนามต้องทำอย่างไร

“ทุเรียนไร้หนาม” คืออะไร เป็นคำถามที่หลายคนคงสงสัย จริงๆแล้ว “ทุเรียนไร้หนาม” คือทุเรียนที่มีหนามแต่ชาวสวนทุเรียนมีการลองผิดลองถูกเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทุเรียน ซึ่งทุเรียนไร้หนามนี้ มีการลองพัฒนาทำมาหลายปีแล้ว   เช่นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทุเรียนที่ขึ้นชื่อจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยอย่างพันธุ์หลงลับแลและหลินลับแล และมีการนำทุเรียนพื้นบ้านมาทำเป็นทุเรียนไร้หนามมีการทดลองเรื่อยมาจนสามารถทำสำเร็จเกิดเป็น "ทุเรียนไร้หนาม"ขึ้นมา

ไขข้อสงสัย \"ทุเรียนไร้หนาม\"  คืออะไร ต่างจากพันธ์ปกติยังไง

 ล่าสุดชาวสวนจังหวัดจันทบุรีได้ลองทำ “ทุเรียนไร้หนาม”ขึ้นมา โดยใช้ พันธุ์ชะนี พวงมณี และหมอนทองมาปาดเอาหนามออกปรากฎว่าสำเร็จเช่นกัน “ฐานเศรษฐกิจ”จะพาไปดูความแตกต่าง วิธีการทำทุเรียนไร้หนามให้มีราคาต้องทำอย่างไร

วิธีการที่ชาวสวนทุเรียนจะเรียกว่าภูมิปัญญาก็ว่า  โดยจะนำลูกทุเรียนขนาดเท่ากับกำปั้นใช้วิธีเอาหนามออกจากผิวทุเรียน และใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลผิวทุเรียน นำสมุนไพรผสมปูนแดงไปทาที่ผิว เพราะหลังจากตัดหนามทุเรียนจะทำให้ผิวทุเรียนบางลง ซึ่งพวกเพลี้ยจะมาดูดน้ำจึงต้องดูแลอย่างดี และใช้เวลาประมาณ 115-130 วัน จึงสามารถตัดได้ ทุเรียนไร้หนามมีดีในเรื่องเนื้อ รสชาติอร่อยกว่าหมอนทอง และไม่มีสารเคมี ส่วนเรื่องราคาทุเรียนไร้หนาม น่าจะราคาสูงกว่าทุเรียนปกติ 5-6 เท่า

ไขข้อสงสัย \"ทุเรียนไร้หนาม\"  คืออะไร ต่างจากพันธ์ปกติยังไง

ส่วนวิธีการดูแลจะรดน้ำใส่ปุ๋ยตามปกติ เช่นเดียวกับทุเรียนทั่วไป แต่ต้องหมั่นดูแลผลทุเรียน เนื่องจากแกะหนามออกแล้ว เปลือกทุเรียนจะบาง อาจเกิดการเสียหายจากโรคและแมลงได้ง่ายขึ้น

 

 

รู้หรือไม่? อินโดนีเซียก็มี “ทุเรียนไร้หนาม”เช่นกัน ศูนย์พันธุ์พืชแห่งหนึ่งของอินโดนีเซียประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ทุเรียนไร้หนามแล้ว หลังจากที่ค้นพบต้นทุเรียนที่ออกผลไม่มีหนามในสวนของชาวอินโดนีเซียครอบครัวหนึ่งตั้งแต่ปี 2007 แล้วมีความพยายามขยายพันธุ์มาตลอด 12 ปี จนในที่สุดก็ได้ต้นกล้าพันธุ์จากการเสียบยอดถึง 23,000 ต้น ซึ่งได้ส่งไปปลูกต่อทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้พัฒนาคาดว่าลักษณะไร้หนามดังกล่าวเกิดจากการผสมชิดของดอกทุเรียนจนทำให้ลักษณะด้อยแสดงออกมาได้ในที่สุด ส่วนรสชาติมีความหวานกว่าทุเรียนทั่วไป