เตือนภัย ระวัง!มิจฉาชีพช่วงวันสงกรานต์ หลอกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

14 เม.ย. 2566 | 06:06 น.

กรมพัฒน์ เตือน!ระวังมิจฉาชีพ หลอกอัพเดทข้อมูลธุรกิจหรือข้อมูลส่วนบุคคลหวังดูดเงินในบัญชีจนเกลี้ยง ล่าสุดพัฒนากลโกงก้าวไปอีกขั้นใช้น้ำเสียงสร้างความน่าเชื่อถือ หว่านล้อมอ้างข้อกฎหมาย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว แต่อาจมีมิจฉาชีพที่ทำให้ความสนุกที่เกิดขึ้นหมดสิ้นไป โดยใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้หลอกให้ภาคธุรกิจและประชาชนอัพเดทข้อมูลธุรกิจหรือข้อมูลส่วนบุคคลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยอ้างชื่อและโลโก้หน่วยงานราชการทำให้ดูน่าเชื่อถือ รวมถึง การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ให้มีรูปแบบคล้ายกับหน้าเว็บไซต์กรมฯที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานได้มีการออกมาเตือนภัยอย่างต่อเนื่องให้ระวังการให้ข้อมูลหรือคลิกลิงก์ที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ล่าสุด มิจฉาชีพได้มีการพัฒนากลโกงที่มีความก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยมีการใช้น้ำเสียง/ข้อมูลธุรกิจเชิงลึกสร้างความน่าเชื่อถือ เริ่มจากการแนะนำชื่อ-นามสกุล-ตำแหน่ง-ชื่อหน่วยงานราชการ พร้อมส่งเอกสารข้อมูลธุรกิจเชิงลึกประกอบการหลอกลวง เมื่อภาคธุรกิจหรือประชาชนหลงเชื่อพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ก็จะมีการหว่านล้อมขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ให้คลิกลิงก์เพื่ออัพเดทข้อมูลธุรกิจหรือข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้ง มีการอ้างข้อกฎหมายที่มีบทลงโทษที่หนักเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนเกิดความหวาดกลัว และทำตามที่มิจฉาชีพหลอก รู้ตัวอีกที..เงินที่มีอยู่ในบัญชีถูกโอนออกไปจนหมด ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก

“ กรมพัฒน์ขอย้ำกับภาคธุรกิจและประชาชนอีกครั้งว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายทักหาภาคธุรกิจและประชาชนก่อน โดยที่ประชาชนท่านนั้นไม่ได้สอบถามข้อมูลมา รวมถึงให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจด้วยเงิน จึงฝากให้ภาคธุรกิจและประชาชนพึงระวังหากไม่ได้ดำเนินการติดต่อใดๆ กับกรมฯ แต่ได้รับข้อมูลหรือการติดต่อจากบุคคลในลักษณะดังกล่าวต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน อย่าหลงเชื่อหรือกดไฟล์เอกสารที่แนบมาโดยไม่สังเกตความผิดปกติ และปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลอื่น”

 

ปัจจุบันมิจฉาชีพได้มีการพัฒนากลวิธีการหลอกลวงให้แนบเนียนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนอย่างง่ายดาย 

และได้แอบอ้างชื่อหน่วยงานราชการมาใช้สร้างความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงผ่านช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงแต่ละบุคคล เช่น โทรศัพท์ อีเมล โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ปลอม เพื่อล่อลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้โจรกรรม ซึ่งจะใช้การสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวาดกลัว หรือได้รับผลประโยชน์บางสิ่งจนหลงเชื่อทำตามและบอกข้อมูลส่วนบุคคลไป ทั้งนี้ ขอให้ภาคธุรกิจและประชาชนระมัดระวังการเปิดรับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่มั่นใจ และรู้ทันกลโกงของมิจฉาชีพ สามารถสังเกตจากถ้าได้รับอีเมลควรเป็นชื่อที่รู้จักหรือติดต่อไว้เท่านั้น

หากระบุให้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์ต้องแน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติ เมื่อนำเมาส์ไปชี้ที่ลิงค์ URL จะต้องมี URL ที่ตรงกันกับหน่วยงานที่ติดต่อเท่านั้น อีกทั้ง การเข้าใช้งานในเว็บไซต์ควรพิมพ์ URL โดยตรงจะปลอดภัยกว่าการเข้าใช้งานผ่านลิงก์