svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

"สายสีส้ม "เดินหน้าต่อ รฟม.ลุยเซ็นสัญญาเอกชน หลังศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง

01 เมษายน 2566

รถไฟฟ้า"สายสีส้ม" เดินหน้าต่อ รฟม.ลุยเซ็นสัญญาเอกชน รอรัฐบาลหน้าไฟเขียว หลังศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องล้มประมูล ชอบด้วยกฎหมาย

 

ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี (BTSC) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ฯ

กรณีมีมติการประชุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่า1.4แสนล้านบาท ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 และยกเลิกการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนฯ

ทั้งนี้ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ยกฟ้อง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ฯ มีอำนาจยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนและยกเลิกการคัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มชอบด้วยกฎหมาย

 

โดยศาลฯพิเคราะห์ ว่า การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์หากล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนทางการเงินรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก

รวมถึงทำให้การให้บริการส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ล่าช้า ส่งผลให้มีค่าใช้ด้านงานโยธาส่วนตะวันออกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตามผลการศึกษาโครงการฯ เมื่อเปิดให้บริการทั้งเส้นทางจะมีผู้ใช้บริการ 439,736 คนต่อเที่ยวต่อวัน หากเปิดล่าช้าจะทำให้ผู้ใช้บริการสูญเสียประโยชน์

ส่วนในกรณีที่คดีรถไฟฟ้าสายสีส้มมีการฟ้องร้องคดีหลายสำนวนของศาลปกครองจึงไม่สามารถทราบวันเวลาสิ้นสุดว่าจะสิ้นสุดคดีเมื่อไร ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้โครงการฯ มีปัญหาล่าช้า เบื้องต้นทางคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 สามารถเดินหน้า เปิดประมูลโครงการฯ และดำเนินโครงการต่อไปได้ โดยไม่ต้องรอให้ศาลวินิจฉัย เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นการวินิจฉัยทั่วไปที่สามารถยอมรับได้

นอกจากนี้ในกรณีที่ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนและยกเลิกการคัดเลือกเอกชนในโครงการฯขัดความเสมอภาคหรือไม่นั้น ศาลวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวไม่ขัดความเสมอภาคและเป็นการดำเนินการโดยสุจริต

เนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ยังไม่ได้พิจารณาเอกสารข้อเสนอการร่วมลงทุนของเอกชนรายใด ทำให้การยกเลิกการประมูลในครั้งนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง อีกทั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ไม่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก

ดังนั้นการยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนและยกเลิกการคัดเลือกเอกชนในโครงการฯสามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติการร่วมวมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ปี 2562 โดยในเอกสารได้ระบุไว้ว่า รฟม.สงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนได้

"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบ คดีรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ฟ้องร้องอยู่ในศาล อีกจำนวน 2 คดี ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในศาลปกครอง

1 คดี คือ คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลาง ในกรณีที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ฟ้องการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มครั้งใหม่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการกีดกันด้านการแข่งขัน

 ส่วนอีก 1 คดี ปัจจุบันอยู่ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซีได้ฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ในการแก้ไขเอกสารการประกวดราคาและยกเลิกการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเป็นการทุจริตละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปัจจุบันคดีนี้ทางบีทีเอสซีอยู่ระหว่างขอขยายเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา

 ด้าน นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มหลังบีทีเอสยื่นฟ้องรฟม.และคณะกรรมการมาตรา 36 ว่า รฟม.สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด ทำให้ผลการตัดสินของศาลออกมาแบบนี้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าที่ผ่านมา รฟม. และคณะกรรมการมาตรา 36 ดำเนินการอยู่บนพื้นฐานและอำนาจหน้าที่ที่ชอบด้วยกฎหมาย

หลังจากนี้จะต้องรอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบผลการคัดเลือกการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งตามขั้นตอน ครม.จะต้องส่งเรื่องกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อให้รัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่ยืนยันอีกครั้ง หากพิจารณาแล้วเห็นชอบตามเดิมกระทรวงก็สามารถนำเสนอเรื่องให้ครม.พิจารณาได้ต่อไป ทำให้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะลงนามในสัญญากับเอกชนผู้ชนะการประมูลได้เมื่อไร