ไทย – ภูฏาน เพิ่มความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว

29 ส.ค. 2559 | 06:50 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

การประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าระหว่างไทยและภูฏานครั้งแรก (Joint Trade Committee: JTC) ระหว่างวันที่  24 – 25 สิงหาคม2559 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ภูฏานในฐานะเจ้าภาพให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกันด้านการค้า การลงทุน การเกษตร และการท่องเที่ยว เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยและภูฏานมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน โดยมีความใกล้ชิดระหว่างราชวงศ์ของทั้งสองประเทศ ประชาชนมีการไปมาหาสู่กันและนับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน เมื่อปี 2557 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในความตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือในหลายๆด้าน อาทิ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร และการศึกษา ทั้งนี้ ภูฏานได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ครั้งที่ 1 ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการภูฏาน (H.E. Lyonpo Lekey Dorji) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สองฝ่ายได้หารือกันในหลายประเด็น โดยมุ่งเน้นแสวงหาแนวทางในการขยายการค้าและการลงทุนที่เป็นรูปธรรม

ด้านการค้าและการลงทุน แม้การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับภูฏานยังอยู่ในระดับต่ำ แต่การค้ามีการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 100 และสินค้าส่วนใหญ่ของภูฏานสามารถส่งออกมาไทยโดยไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า ภายใต้ระบบ Duty-Free Quota-Free ที่ไทยให้กับประเทศพัฒนาน้อยที่สุด นอกจากนั้น การที่รัฐบาลภูฏานมีนโยบายสนับสนุนและเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปลงทุนในสาขาต่างๆ ที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ธุรกิจก่อสร้าง การท่องเที่ยว โรงแรมและรีสอร์ท การบริการสุขภาพ/การรักษาพยาบาล เป็นต้น ในการนี้ ภูฏานจะจัดคณะมา Road Show ที่เมืองไทยในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เพื่อแนะนำศักยภาพทางเศรษฐกิจของภูฏาน โดยจะครอบคลุมทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยรู้จัก นอกจากนั้น ฝ่ายไทยจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์การส่งเสริมการลงทุนให้ภูฏานด้วย

ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไทยและภูฏานมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายสาขา โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการเกษตร ทั้งนี้ สาขาที่ไทยและภูฏานเห็นพ้องให้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ได้แก่ 1) การท่องเที่ยว โดยสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับการพัฒนาแพ็คเกจการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “2 Kingdoms 1 Destination” รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยภูฏานต้องการให้ไทยขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม High End และฝ่ายไทยจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในด้านการบริหารจัดการโรงแรม2) การเกษตร ไทยได้ให้ความร่วมมือด้านการเกษตรกับภูฏานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการจัดอบรมและการถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์และเทคนิคการผลิตแก่เกษตรกรภูฏาน สองฝ่ายจะพิจารณาขยายความร่วมมือเกี่ยวกับการดูแลผลิตภัณฑ์หลังเก็บเกี่ยว การวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึงการทดสอบและการพัฒนาห้องแลป เป็นต้น และ 3) การพัฒนาสินค้าหัตถกรรม (Handicraft) ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ภายใต้กระทรวงพาณิชย์มีความยินดีที่จะถ่ายความรู้และประสบการณ์การพัฒนาการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สินค้าของภูฏานมีความหลากหลายและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างทั้งสองประเทศต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ไทยมีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านต่างๆ ที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพและมีความสนใจร่วมกัน

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม JTC นาง Phub Zam ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมภูฏานและคณะได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแจ้งว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ภาคเอกชนภูฏานต้องการให้ไทยเข้าไปลงทุน ได้แก่ เกษตร ท่องเที่ยว ก่อสร้าง ป่าไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ การศึกษา การทำภาพยนตร์ และการพัฒนา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะประสานงานและประชาสัมพันธ์ศักยภาพของภูฏานให้กับภาคเอกชนและนักลงทุนไทยต่อไป