‘ระนอง’ชวดแผนตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เบนเข็มผุดตลาดชายแดนไทย-เมียนมา
ระนอง ชวดแผนตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เบนเข็มผุดตลาดค้าชายแดนไทย-เมียนารับการค้าชายแดนไทย-เมียนมาขยายตัวหลังการเปิดเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พบปัจจุบันสถานการณ์การค้ามีแนวโน้มขยายตัวสูง ทำการค้าชายแดนขยายตัวเพิ่มกว่าเท่าตัว
นางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดระนองได้ผลักดันการสร้างตลาดการค้าชายแดนเพื่อรับการขยายตัวของการค้าชายแดนด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ทดแทนเพื่อรองรับการขยายตัวทางการค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านและ แถบประเทศใกล้เคียง หลัง จากที่ภาคเอกชนจังหวัดระนอง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ มีความเห็นร่วมกันผลักดันจังหวัดระนอง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองระนอง โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพท่าเรืออเนกประสงค์จังหวัดระนองเพื่อเชื่อมโยงการค้าผ่านทางเรือไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเบงกอล แหลมมาลายู และยุโรปได้ แต่ล่าสุดไม่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว
ต่อเรื่องนี้นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังจากที่จังหวัดระนองไม่ได้การประกาศให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจากภาครัฐแล้ว ล่าสุดทุกภาคส่วนก็มีความเห็นร่วมกันว่าควรหันมาผลักดันการจัดตั้งตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ระนอง-เกาะสองให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อรับการเปิดอาเซียนที่คาดว่าจะส่งผลให้การค้าชายแดนไทย-พม่าขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว รวมทั้งการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งในฝั่ง จ.ระนองและเมียนมาทางตอนใต้
สำหรับโครงการตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมาดังกล่าวเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าชายแดนของจังหวัดระนองที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมากหลังจากเปิดเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปี 2558 ที่ผ่านมาอีกทั้งยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระนองในอนาคต
"ที่ผ่านมาทางจังหวัดมีการผลักดันให้มีการเปิดจุดตรวจจุดผ่านแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 4 ที่ บริเวณท่าเรือศุลกากรระนอง ตั้งอยู่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการข้ามแดนที่มีจำนวนเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโครงการตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมาด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง จึงเป็นโครงการต่อยอดเพื่อรองรับการขยายตัวในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จากก่อนหน้านี้ทางภาคเอกชนระนองได้มีการเปิดตลาดค้าชายแดนไทย-เมียนมาขนาดเล็กที่บ้านปากคลอง"
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากเปิดจุดผ่านแดนถาวรบริเวณท่าเทียบเรือศุลกากรเพื่อให้สามารถ เป็นจุดผ่านแดนของนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร ที่จะเดินทางไปประเทศ สหภาพพม่า (จังหวัดเกาะสอง)แล้ว ล่าสุดกรมศุลกากรได้หารือ กับ กรม ธนารักษ์ เพื่อพัฒนาพื้นที่หลังท่าเทียบเรือฯ ให้เป็นจุดผ่านผู้โดย สาร (CIQ) และตลาดชายแดน (สินค้า OTOP ของที่ระลึกและสินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อให้ ชาวพม่ามา ซื้อขาย) ดังนั้นจึงได้ขอการสนับสนุนงบประมาณจังหวัดระนอง และกลุ่ม จังหวัดอันดามัน เพื่อดำเนินการก่อสร้างสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร CIQ ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า OTOP เป็นต้น เพื่อพัฒนาเป็นตลาดการค้าชายแดนไทย – เมียนมาที่สำคัญ อีกแห่งหนึ่ง
สำหรับงบประมาณในการจัดสร้างจุดบริการนักท่องเที่ยว (อาคาร CIQ) พร้อมร้านอาหาร ห้อง สุขา เป็นอาคาร 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 300 ตารางเมตร มูลค่าก่อสร้างประมาณ 7.5 ล้านบาท อาคารตลาด OTOP ประมาณ 15 ห้อง มีทางเดินพร้อมหลังคากันฝน มูลค่าก่อสร้างประมาณ 6 ล้านบาท ห้องสุขาสาธารณะชาย 4 ห้อง หญิง 4 ห้อง พร้อมลานจอดรถยนต์ชั่วคราว มูลค่าก่อสร้าง 3 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 16.5 ล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559