‘SAPPE’ ร่วมทุน ‘ออล โคโค’ ดันน้ำมะพร้าวไทยยึดตลาดโลก

16 ส.ค. 2559 | 07:11 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2559 | 14:43 น.
‘เซ็ปเป้’ เดินหน้าเข้าลงทุนถือหุ้น 40% ใน ‘ออล โคโค’ ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมะพร้าวน้ำหอมและขนมจากน้ำมะพร้าวน้ำหอม ก่อนเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 60%ภายในปี 2563 หลังเห็นศักยภาพสินค้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก พร้อมนำจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการทำตลาดและเครือข่ายช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศช่วยต่อยอดขยายตลาดส่งออกน้ำมะพร้าวตี ตลาดโลก ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 500 ล้านบาทภายในปี 2564 ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 เติบโตก้าวกระโดด จากตัวเลขกำไรสุทธิ 151 ล้านบาท เติบโต 144% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  รับตลาดหลักในเอเชียมีการฟื้นตัวได้ดีเกินคาด และตลาดสหรัฐอเมริกามีการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE  เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เข้าลงทุนในบริษัท ออล โคโค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมะพร้าวน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ขนมจากน้ำมะพร้าวน้ำหอม มีศักยภาพการบริหารจั ดการครอบคลุมตั้งแต่ต้ นสายของการดูแลวัตถุดิบถึงขั้นตอนสุดท้ายในการผลิต ภายใต้งบลงทุน 140 ล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน40% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด  หลังจากนั้นจะเพิ่มสัดส่วนการถื อหุ้นเป็น 51% ภายในปี 2561 และเพิ่มเป็น 60% ภายในปี 2563 ตามลำดับ เพื่อรองรับแผนดำเนินงานที่ต้อง การรุกขยายพอร์ตสินค้าและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง หลังจาก ‘เซ็ปเป้’ มองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาด ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ในตลาดโลก

ธุรกิจน้ำมะพร้าว ถึงแม้จะมียอดการเติบโตที่ดี แต่มีข้อจำกัดทางธุรกิจค่อนข้าง มาก ทั้งในด้านของคุณภาพและปริมาณวั ตถุดิบ เนื่องจากมะพร้าวเป็นสินค้าทางก ารเกษตรที่ต้องอาศัยความชำนาญเฉ พาะทาง โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอม รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับเครื อข่ายเกษตรกร ทั้งนี้ พันธมิตรในการร่วมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นผู้นำในตลาดส่งออกมะพร้า วน้ำหอมที่มีคุณภาพสินค้าเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมานานกว่า10 ปี ภายใต้แบรนด์ K-Fresh นอกเหนือจากผลสดส่งออกแล้ว ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่องภายใต้กลุ่มบริษั ท All coco มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น เช่น น้ำมะพร้าวน้ำหอม HPP (High Pressure Processing) ซึ่งผ่านเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ แรงดันในการยับยั้งการเจริญเติบ โตของจุลินทรีย์โดยไม่ใช้ความร้ อน ช่วยยืดอายุสินค้าได้นานขึ้นและ รักษารสชาติรวมถึงคุณประโยชน์เที ยบเท่ากับน้ำมะพร้าวในผลสด 100% นอกเหนือจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภั ณฑ์ขนม ได้แก่ ไอศกรีม พุดดิ้ง น้ำมะพร้าวเกล็ดหิมะ (snowflex) จัดจำหน่ายผ่านร้านภายใต้แบรนด์ ‘all coco’ ที่กระจายอยู่ในศูนย์การค้าชั้น นำมากถึง 14สาขา อาทิ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ขณะเดียวกันยังมีคู่ค้าในต่างปร ะเทศติดต่อขอสิทธิ Franchise ไปจำหน่ายถึง 3 ประเทศในช่วงเวลาไม่ถึงปีหลั งเปิดตัวธุรกิจ

“เรามีศักยภาพด้านการทำตลาดและสร้างแบรนด์สินค้าในตลาดต่างประเ ทศ ผ่านเครือข่ายช่องทางการจำหน่าย ที่แข็งแกร่งของ SAPPE เมื่อมารวมกับจุดแข็งของ ออล โคโค ที่มีจุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพจะช่วยกันต่อยอดความสำเร็ จผลักดันน้ำมะพร้าวของคนไทยสู่ต ลาดโลก ภายในแบรนด์ของคนไทย โดยเราตั้งเป้าว่าภายในปี2564 จะทำยอดขายได้มากกว่า 500 ล้านบาท” นางสาวปิยจิต กล่าว

นางวราภรณ์  มนัสรังษี  กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ออล โคโค กล่าวว่า ธุรกิจของเรามาถึงจุดนี้ได้มาจา กความมุ่งมั่นและความรักในการพั ฒนาสินค้าจากมะพร้าวน้ำหอมที่ดี ต่อสุขภาพ โดยเราเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ดี มีคุณภาพ จะทำให้ลูกค้ามีความสุข ซึ่งที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเราจะไม่ มีความชำนาญในการขายมากนัก แต่ด้วยสินค้าที่เป็นที่ต้องการ ของตลาด ทำให้ธุรกิจเราเติบโตอย่างต่ อเนื่อง วันนี้ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเ นินธุรกิจของ SAPPE ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชา ญการทำตลาดที่ประสบความสำเร็จใน การส่งออกสินค้าภายใต้แบรนด์ของ คนไทยไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้น การที่ SAPPE เข้ามาร่วมถือหุ้นกับบริษัทฯในค รั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพของกันและกัน โดยเรามีเป้าหมายเดียวกั นในการนำมะพร้าวน้ำ หอมของคนไทยออกสู่ตลาดต่ างประเทศให้เป็นที่รู้จักและเป็ นที่ยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก

“กลุ่มบริษัท ออล โคโค มีความพร้อมด้านวัตถุดิบและกำลั งการผลิต โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายกลุ่ม เกษตรกรมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี มีพื้นที่เพาะปลูกรวมกันกว่า 6,000 ไร่ รวมผลผลิตประมาณ 100,000 ลูกต่อวัน เพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับไลน์การ ผลิตใหม่ที่พร้อมเดินเครื่องจัก รเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ อีกทั้งเรายังเป็นผู้จัดส่ งมะพร้าวน้ำหอมที่มีคุณภาพเป็ นวัตถุดิบให้กับแบรนด์น้ำมะพร้ าวระดับโลกอีกหลายราย”นางสาววราภรณ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ สามารถสร้างกำไรเติบโตก้าวกระโด ด เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านม า โดยมีกำไรสุทธิ 150.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.8% จากไตรมาสแรกปีนี้ ที่มีกำไรสุทธิ 61.81 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 836.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ที่มีรายได้รวม 604.74  ล้านบาท โดยปัจจัยการเติบโตมาจากปริ มาณคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้ น จากการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีของต ลาดส่งออกในหลายภูมิภาค และบริษัทยังสามารถบริหารจัดการ ต้นทุนในกระบวนการผลิตได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ตามแผนการลงทุนขยายกำลังการผลิต เพิ่มกำลังการผลิตการเป่าขวดทดแ ทนการซื้อ และแผนการรวบฐานการผลิตจากโรงงา นบางชันไปที่คลอง 13 ปทุมธานี

สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่ งปีหลังยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยบริษัทยังคงเป้ายอดขายเติบโต 15%  ซึ่งจะเป็นการเติบโตจากตลาดต่าง ประเทศเป็นหลัก ในขณะที่ตลาดในประเทศไม่มีการเป ลี่ยนแปลงมากนัก สำหรับการเติบโตทางธุรกิจจากการ ร่วมทุนในครั้งนี้ เรามีกำหนดการเข้าซื้อกิจการในวันที่ 1 ตุลาคม และภายหลังจากการเข้าร่วมทุน จะมีการออกสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ต่างประเทศตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป เราเชื่อว่าธุรกิจนี้มีศักยภาพในการเติบโตไปถึงพันล้านได้ในระย ะยาว ทั้งนี้ภายหลังจากการเข้าร่วมทุนเสร็จสิ้น ทางบริษัทฯจะนำเสนอรายละเอียดแผนธุรกิจอีกครั้งหนึ่ง