"น้องเมย์" รัชนก พ้นข้อกล่าวหาใช้สารกระตุ้น พร้อมลุยสนามโอลิมปิก
คณะกรรมการพิจารณาคดีการใช้สารต้องห้ามของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) มีมติตัดสิน"น้องเมย์- รัชนก อินทนนท์" นักแบดมินตันหญิงมือหนึ่งของไทย ไม่มีความผิดเรื่องการใช้สารต้องห้าม เมื่อครั้งถูกตรวจพบจากการสุ่มตัวอย่างเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 พร้อมตัดสินให้ยกเลิกโทษแบน ห้ามแข่งขันชั่วคราว ส่งผลให้ รัชนก กลับมาลงแข่งขันได้ตามปกติ มีผลในทันที
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ BWF พิจารณาคดี รัชนก ละเมิดกฎการใช้สารต้องห้ามหรือไม่ หลังจากตัวอย่างปัสสาวะจากการแข่งขันเทนนิส โธมัส และ อูเบอร์ คัพ ที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 มีผลเป็นบวก สืบเนื่องจากตรวจพบ "ไทรแอมซิโนโลน อเซโตไนด์" ซึ่งเป็นสารกลุ่มคอร์ติคอสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งถูกจัดอยู่ใน "คลาส เอส9" และอยู่ในลิสต์สารต้องห้ามของ องค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาด้า) ปี 2016 ว่าห้ามใช้ระหว่างการแข่งขัน เมื่อมีการใช้ผ่านทางปาก, ฉีดเข้าเส้นเลือดดำ, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือทางทหวารหนัก
การพิจารณาคดี ผ่านวิดีโอ คอนเฟอเร้นซ์ ซึ่งภูมิหลังการใช้ยาของ ตลอดจนบันทึกทางการแพทย์ของ รัชนก ถูกยื่นให้คณะกรรมการนำไปใช้พิจารณา โดยหลักฐานดังกล่าวร่วมกับการให้การของพยานผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าสารดังกล่าว ที่ถูกฉีดให้นักกีฬาในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ซึ่งเป็นรักษา "ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น" นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาต่อเนื่อง และเป็นการรักษาผ่าน "เอ็นกล้ามเนื้อ" ทำให้คณะกรรมการฯ มีบทสรุปว่าเนื่องจากขั้นตอนการรักษากระทำกับ "เอ็นกล้ามเนื้อ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ จึงไม่เป็นการละเมิดกฎการใช้สารต้องห้าม
"น้องเมย์" และ สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย (บีเอที) ถูกแจ้งเกี่ยวกับ ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ที่ผิดปกติ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2559 จากนั้น น้องเมย์ ถูกลงโทษแบนชั่วคราว ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 ภายใต้กฎเกี่ยวกับการห้ามใช้สารกระตุ้นของบีดับเบิ้ลยูเอฟ ข้อที่ 7.9.3 ก่อนจะมีการพิจารณาข้อกล่าวหา และมีมติยกเลิกบทลงโทษทุกอย่าง มีผลในทันที