'ตรังร่วมพัฒนา' ปลูกความรู้ด้วยความรัก สร้างการศึกษาด้วยพลังปัญญา

27 มิ.ย. 2559 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2559 | 11:06 น.
“เพราะเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการ ความสนใจ และความสามารถที่แตกต่างกัน พัฒนาการที่ดีของเด็กเราใช้ระยะเวลาเพียง 1 หรือ 2 ปีไม่ได้ การศึกษาที่โรงเรียนตรังร่วมพัฒนาเราจึงเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างพัฒนาการที่ดีในระยะยาว ให้เด็กมีพัฒนาการตามธรรมชาติ สร้างกิจกรรมให้เด็กรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวก ให้เด็กทุกคนได้เรียนตามพัฒนาการและความอยากรู้ อยากเรียนของเขามากที่สุด”

[caption id="attachment_65688" align="aligncenter" width="335"] วธู สังขวิภา หรือ ครูนุ้ย  ผู้จัดการ โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา วธู สังขวิภา หรือ ครูนุ้ย
ผู้จัดการ
โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา[/caption]

จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่แฝงไปด้วยความรักอย่างแน่วแน่ในการพัฒนาระบบการศึกไทยให้สามารถตอบโจทย์การสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่ดีในสังคมโลกอย่างยั่งยืนของ คุณวธู สังขวิภา หรือ ครูนุ้ย ผู้จัดการโรงเรียนตรังร่วมพัฒนา เธอผู้เติบโตในครอบครัวซึ่งทำธุรกิจด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสอนภาษา รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการวางหลักสูตรให้กับโรงเรียนต่างๆ มามากกว่า 20 ปี และความไฝ่ฝันตั้งแต่ยังเด็กว่าสักวันหนึ่งเธออยากจะมีโรงเรียนของตนเองที่วางหลักสูตรการเรียนรู้โดยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กอย่างแท้จริง

หลังจากจบการศึกษาด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยมหิดล และปริญญาโทด้านการบริหารบุคคลากร เธอเดินหน้าสานต่อความฝันด้วยการศึกษาหลักสูตรการศึกษาชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง High Scope Preschool Curriculum ซึ่งให้ความสำคัญกับการคิดวิเคราะห์จนเป็นนิสัย ส่งเสริมให้เด็กรู้จักการพึ่งพาตนเอง รักการเรียนรู้ กล้าแสดงออก และมีความคิดสร้างสรรค์ จนได้รับใบประกาศนียบัตร และหอบกระเป๋ามาสร้างโรงเรียนในฝันของเธอร่วมกับหุ้นส่วนซึ่งเป็นสายเลือดตรังแท้ ผู้ต้องการพัฒนาเยาวชนเมืองตรังอย่างมีคุณภาพต่อไป จนเกิดเป็น “โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา” โรงเรียนสองภาษา (Bilingual) ที่พร้อมเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล – ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

[caption id="attachment_65687" align="aligncenter" width="500"] โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา[/caption]

“ตรังร่วมพัฒนา” ภายใต้สัญลักษณ์ต้นไม้สีม่วง (ดอกศรีตรัง) มีคนสามคนพร้อมร่วมมือกันเพื่อให้ต้นไม้ต้นนี้มีกิ่ง ก้าน และใบที่งดงาม มีที่มาจากแนวคิดที่ว่า เด็กจะพัฒนาและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งมี 3 องค์ประกอบหลักๆ คือ โรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียน ในฐานะผู้บริหารโรงเรียนครูนุ้ยจึงเริ่มรังสรรค์โรงเรียนในความฝันด้วยหัวใจคนรักในการศึกษา ด้วยภาพของนักบริหารอย่างแท้จริง

“การเรียนการสอนทุกหลักสูตรนั้นมีข้อดีของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละหลักสูตรนั้นแตกต่างกันคือ การเรียนการสอน ที่โรงเรียนตรังร่วมพัฒนาเราเน้นให้เด็กได้เรียนรู้และได้ความสนุกไปพร้อมๆ กัน สิ่งสำคัญคือ การเรียนในแต่ละห้องซึ่งจำกัดไม่เกินห้องละ 25 คน จะไม่มีการแทรกชั้นเรียน เด็กที่เรียนที่นี่ตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป. 6 ต้องเริ่มนับ 1 จากหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้แบบเดียวกัน เพราะพัฒนาการของเด็กคือการทุ่มเทเวลาอย่างมีคุณค่าของทุกส่วนไปพร้อมกัน ตั้งแต่หลักสูตร ครู โรงเรียน ผู้ปกครอง และสังคมเด็กด้วยกัน”

เพราะการเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งแรกที่ครูนุ้ยให้ความสำคัญคือ “การออกแบบโรงเรียน” ให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ ห้องเรียนที่ถูกแบบเป็นมุมต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ ให้เด็กได้เปิดจินตนาการและความสนใจได้อย่างไม่มีขีดจำกัด พื้นที่นอกห้องเรียนคือสนามแห่งการเรียนรู้ เป็นโลกใบเล็กในโลกใบใหญ่ ที่เปิดให้เด็กๆ ได้สัมผัสกับจินตนาการแบบรูปธรรม ส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กเกิดต่อมอยากเรียนรู้กับสิ่งรอบๆ ตัวในทุกๆ ที่ ทั้งในห้องเรียน นอกห้องเรียน และทุกกิจกรรมในการดำเนินชีวิต ต่อมาคือ “ครู” ในฐานะผู้จัดการโรงเรียนที่มีประสบการณ์การสอนตั้งแต่วัยเรียน นอกจากการคัดเลือกครูทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เรียนจบด้านปฐมวัยและด้านการศึกษามาโดยตรงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องมีคือ “จิตวิญญาณความเป็นครู” ที่สำคัญคือทุกคนต้องมี Positive Approach ไม่มีพฤติกรรมการสอนเชิงดุ ด่า หรือทำโทษ มุ่งสอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้และเสริมพัฒนาการเด็กตามแนวคิดของโรงเรียนได้อย่างแท้จริง “หลักสูตร” นอกจากกรอบหลักสูตรใหญ่ที่เป็นโครงร่างของการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนตรังร่วมพัฒนาแล้ว ทุกกิจกรรมและการเรียนการสอน ครูนุ้ยให้ความสำคัญกับคำ 3 คำ คือ Plan, Do and Review เริ่มจากการวางแผนกิจกรรมการเรียนรู้จากการตั้งคำถาม เพื่อให้เด็กทุกคนมีเป้าหมายในการทำ การเริ่มลงมือปฏิบัติในแบบและจินตนาการของตนเองจนสำเร็จ และสุดท้ายคือการประมวลผลหรือการประเมินตนเอง ผ่านการเล่าเรื่องและตอบคำถามถึงงานที่ตนเองได้ทำจนสำเร็จ

[caption id="attachment_65686" align="aligncenter" width="500"] โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา[/caption]

ความรู้ในส่วนของวิชาการถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย แต่แทนที่เด็กจะเรียนด้วยวิธีการท่องจำ เราจะหากิจกรรมให้เขาเล่น เปลี่ยนจากที่ครูสอนแล้วให้เด็กเรียน มาเป็นเด็กเลือกแล้วครูนำมาสอน ให้เกิดเป็นการเรียนรู้แบบเด็กเป็นศูนย์กลาง (Child Center) อย่างแท้จริง ซึ่งในการปฏิบัติจริงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย แต่โรงเรียนตรังร่วมพัฒนาต้องการสร้างพื้นที่นี้ให้เกิดขึ้นจริงจากการเอาใจใส่ในตัวผู้เรียนทุกคนอย่างเข้าถึง และเข้าใจ พร้อมๆ กับการใช้การเรียนรู้ที่เรียกว่า “บูรณาการ”

ที่โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา นักเรียนจะไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์ผ่านนับผลส้มในแบบเรียน ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษผ่านการคัดอักษร A B C หรือการเรียนวิทยาศาสตร์ผ่านจอโทรทัศน์ แต่เด็กๆ จะเรียนวิชาเหล่านี้ในสองภาษา แบบ Whole Language ผ่านการพิจารณาคำศัพท์พร้อมภาษากายแบบไม่มีการแปลผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักสวนครัว ที่ทำให้เด็กๆ ได้เห็นการเติบโตของกิ่ง ก้าน ได้เห็นสีเขียวของคลอโรฟิลล์ ได้นับจำนวนต้นกล้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และได้เหงื่อซึมเล็กๆ บริเวณหน้าผากจากการลงมือพรวนดินด้วยอุปกรณ์เล็กๆ ในมือของพวกเขาเอง

“เด็กเลอะเราก็แค่สอนให้เขาไปอาบน้ำ” การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ไม่มีที่สิ้นสุด ที่สำคัญคือการส่งเสริมจินตาการ และการเรียนรู้ตามพัฒนาการอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างต้นกล้าเล็กๆ เหล่านี้ เป็นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงและมั่นคงต่อไป

เพราะการศึกษาคือ “ภูมิคุ้มกัน” ที่ดีที่สุดให้เด็กสามารถเติบโตในสังคมได้อย่างชาญฉลาด ติดตามข้อมูลการเรียนการสอนของโรงเรียนตรังร่วมพัฒนา โรงเรียนที่ไม่เคยหยุดคิดและหยุดพัฒนาเพื่อเยาวชนตัวน้อยเพิ่มเติมได้ที่ http://www.trangruampattana.com และ Facebook: Trang Ruampattana School โทร 091-991-8888

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,169 วันที่ 26 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559