KEY
POINTS
ในโลกที่เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจต่างต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในงาน 55th Nation Group: THAILAND’s NEW PROSPECT นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ กรรมการบริหารอาวุโส เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเอ็ม ดิสทริค ได้พูดในหัวข้อ "Big Corp & Agile Innovation: Thriving in a Rapidly Changing World" แนวคิดในการบริหารองค์กรที่เน้น ความฉลาด (Intelligent Mindset) และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว (Agility) เพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ
Intelligent Mindset เป็นแก่นสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ กล่าวคือองค์กรจำเป็นต้องมีแนวคิดที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองว่า “การทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่แค่การผลิตสินค้าและบริการที่ดี แต่ยังต้องมีความสามารถในการ ปรับตัวอย่างรวดเร็ว และ ยืดหยุ่น เช่นเดียวกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวัน”
นี่คือสิ่งที่ทำให้ Intelligent Mindset แตกต่างจากการมีแค่ทักษะหรือความรู้ทางเทคนิค เพราะมันรวมถึงการปรับตัวอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่องค์กรต้องเจอ
การปรับตัว หรือ Agility ในที่นี้หมายถึงการที่องค์กรต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและลุกขึ้นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเจอสถานการณ์ที่ล้มเหลว การปรับตัวที่รวดเร็วและยืดหยุ่นจะช่วยให้องค์กรไม่หยุดนิ่งและสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เช่นเดียวกับ ตุ๊กตาล้มลุก ที่ล้มแล้วลุกขึ้นได้ทันที ไม่ว่าจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ความสำคัญของโลก ดิจิทัล และ เทคโนโลยี ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านของชีวิตและการทำธุรกิจ “ในยุคปัจจุบัน AI และเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วย Disruptors หรือผู้ที่เข้ามาทำลายการทำงานแบบเดิม ๆ ที่เราเคยรู้จักในอดีต”
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีทำให้ธุรกิจใหญ่ ๆ ต้องรีบปรับตัว เพราะบริษัทใหญ่ที่เคยใช้เวลาหลายสิบปีในการเติบโต ปัจจุบันสามารถโตได้ในเวลาแค่ 5 ปีเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจาก ความสะดวกสบายในโลกดิจิทัล ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลและซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลไม่ได้หมายความว่า Physical Presence หรือการมีตัวตนในโลกจริงจะหมดความสำคัญไป แต่ Omnichannel Strategy ที่เน้นการเชื่อมโยงระหว่าง โลกออนไลน์ และ ออฟไลน์ จะช่วยสร้าง Seamless Customer Journey ที่ไร้รอยต่อ ช่วยให้ลูกค้าสามารถประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดทั้งจากเว็บไซต์และร้านค้าในโลกจริง
ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงมุมมองในเรื่องของการแข่งขัน “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเร็ว กินปลาช้า แต่ปลาฉลาดที่รวดเร็วจะกินทุกอย่างบนโลกใบนี้” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองจาก กลยุทธ์ที่เน้นขนาด ไปสู่ กลยุทธ์ที่เน้นความฉลาดและความรวดเร็ว ในการทำธุรกิจ
Intelligent Speed และความแม่นยำในการตัดสินใจ ซึ่งสำคัญมากในการทำธุรกิจในยุคนี้ เช่นเดียวกับการแข่งขัน Formula 1 ที่สามารถเปลี่ยนล้อได้ในเวลาอันสั้นสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความแม่นยำในการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่แค่การตอบสนองอย่างรวดเร็วเท่านั้น
การที่องค์กรสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและแม่นยำจะช่วยให้ การดำเนินธุรกิจไม่สะดุด และสามารถตอบสนองต่อลูกค้าและตลาดได้ทันเวลา เช่นเดียวกับ การเปลี่ยนล้อใน F1 ที่ต้องมีทั้งความรวดเร็วและความแม่นยำในการทำงาน เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
การที่องค์กรจะประสบความสำเร็จในยุคนี้ไม่ได้แค่พึ่งพาความเร็วและความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องสร้าง Human Capital หรือการรวบรวมคนเก่งที่มีความสามารถมาร่วมกันพัฒนาองค์กร จากการดูแล แผนก HR มาเป็น การดูแล Human Capital เพราะคนเก่งคือกองทัพสำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า
ความสำคัญของ Ecosystem Collaboration หรือการทำงานร่วมกันทั้งระบบ โดยไม่แยกแผนกต่าง ๆ ในองค์กรออกจากกัน เนื่องจากการทำงานที่ไม่ประสานงานกันอาจทำให้เกิดอุปสรรคในการทำธุรกิจได้ ดังนั้นการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่าง ๆ และกับ คู่ค้า และ ลูกค้า จึงเป็นสิ่งสำคัญ