KEY
POINTS
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยข้อมูลกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า สมาคมได้รวบรวมข้อเสนอเชิงนโยบายครบวงจรเพื่อเสนอรัฐบาล เพื่อช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารและท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและแข็งแรงในระยะยาว
โดยรัฐควรใช้แพ็กเกจนโยบายที่ครอบคลุมทั้ง 4 มิติ คือ การลดต้นทุน เพิ่มรายได้ พัฒนาทักษะแรงงาน และส่งเสริมการตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 แกนหลัก
แกนแรก คือ การเงินและภาษี (Cost Relief & Liquidity) โดยเสนอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับร้านอาหารเหลือ 5% เป็นการชั่วคราว 12 เดือน สำหรับบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ และให้สินเชื่อซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำ 1–2% วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาทต่อกิจการ
โดยมี บสย. ค้ำประกัน 70% นอกจากนี้ยังเสนอให้ยกเว้นหรือปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่างๆ เช่น ใบอนุญาตอาหาร สุขาภิบาล ดนตรีสด และสื่อโฆษณา ระหว่าง 50–100% เป็นเวลา 1 ปี รวมถึงให้สิทธิหักค่าใช้จ่ายลงทุนยกระดับครัว ระบบความเย็น และพลังงานสะอาดแบบ Super Deduction 2.0 โดยสามารถหักเพิ่ม 1.5–2 เท่าของมูลค่าการลงทุน
แกนที่สอง คือ การลดต้นทุนปฏิบัติการ (Operating Cost) ซึ่งเน้นการสนับสนุนค่าไฟและค่าน้ำในอัตราพิเศษสำหรับกิจการขนาดเล็กและกลาง พร้อมทั้งจัดตั้งตลาดกลางวัตถุดิบอาหารร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรและภาคเอกชน เพื่อตัดตัวกลางและลดราคาวัตถุดิบลง 5–10%
แกนที่สาม คือ แรงงานและทักษะ (Jobs & Skills) โดยเสนอให้รัฐอุดหนุนค่าจ้างชั่วคราวสำหรับพนักงานเดิมที่รักษาการจ้างงาน 6–12 เดือน ในอัตรา 1,500–2,000 บาทต่อหัวต่อเดือน พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาทักษะทั้งการใช้ภาษา มาตรฐานการบริการ ความปลอดภัยด้านอาหาร การตลาดดิจิทัล และการบริหารต้นทุน ผ่านอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัย และแพลตฟอร์มออนไลน์ นอกจากนี้ ยังเสนอช่องทางนำเข้าแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมายแบบ Fast-Track สำหรับตำแหน่งขาดแคลน โดยควบคุมมาตรฐานค่าจ้างและสวัสดิการ
แกนที่สี่ คือ การตลาดและการท่องเที่ยว (Demand Stimulus) โดยเน้นจัดเทศกาลอาหารในจังหวัดต่างๆ และเส้นทาง Food Tourism ตั้งแต่ Street Food ไปจนถึง Fine Dining เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน พร้อมทั้งจัดแคมเปญ “Clean Food, Safe & Iconic” เพื่อผลักดันมาตรฐานร้านท้องถิ่น และสร้างคอนเทนต์หลายภาษา
แกนที่ห้า คือ ดิจิทัลและนวัตกรรม (Digital Boost) โดยเสนอให้มินิแกรนท์มูลค่า 50,000–150,000 บาท สำหรับร้านอาหารในการจัดทำเมนูหลายภาษา ระบบจองอาหาร POS และ Inventory รวมถึงเดลิเวอรีและระบบ Loyalty/CRM เปิดเผยข้อมูลภาคท่องเที่ยวและอาหาร เช่น ความต้องการช่วงฤดูกาลและเทศกาล ให้ SMEs ใช้วางแผนธุรกิจ และจัดตั้งกองทุนสตาร์ทอัพด้าน FoodTech และ TravelTech เพื่อสนับสนุนโซลูชันลดต้นทุน ลดการสูญเสียอาหาร และใช้พลังงานสะอาด
แกนที่หก คือ กฎหมาย มาตรฐาน และความยั่งยืน (Ease & Green) โดยเสนอระบบ One-Stop License สำหรับใบอนุญาตอาหาร ดนตรี ป้าย และสุรา ผ่านดิจิทัลเพื่อลดเวลาการดำเนินการจากหลายเดือนเหลือเพียงไม่กี่วัน พร้อมสนับสนุน Green Restaurant/Hotel Program ด้วยเงินอุดหนุน 30–40% สำหรับอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ลดการใช้พลาสติก และจัดการขยะอาหาร นอกจากนี้ยังเสนอให้ปรับปรุงผังเมืองและกฎระเบียบสถานที่ เพื่อส่งเสริมโซนอาหารกลางคืนที่ปลอดภัย มีมาตรฐานด้านเสียงและสุขอนามัย