ธุรกิจร้านอาหาร-โฮสเทลโอด ขาดแคลนแรงงาน หันจ้างพาร์ทไทม์แก้ขัด

28 ส.ค. 2568 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2568 | 14:58 น.

วิกฤตแรงงานขาดแคลน ซ้ำเติมธุรกิจร้านอาหาร-โฮสเทลต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การจ้างงาน หันไปใช้แรงงานรายชั่วโมง - ต่างด้าวแทน

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธารชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และ ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทล ประเทศไทย เปิดข้อมูลกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในธุรกิจร้านอาหารและโฮสเทล โดยธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในธุรกิจร้านอาหาร โดยร้านอาหารหลายแห่งหันมาใช้การจ้างงานแบบรายชั่วโมงแทนการจ้างพนักงานประจำ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในช่วงที่ลูกค้าน้อย โดยในวันธรรมดาพนักงานประจำจะทำงาน แต่ในช่วงสุดสัปดาห์จะใช้พนักงานเสริมจากกลุ่มนักเรียนหรือนักศึกษาที่ทำงานพาร์ทไทม์

ธุรกิจโฮสเทลเริ่มปรับรูปแบบการจ้างงานให้เป็นรายชั่วโมง โดยพนักงานจะทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องการในช่วงที่มีลูกค้าเยอะ เช่น ช่วงบ่ายที่ห้องพักเต็ม หรือมีลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้โฮสเทลสามารถรองรับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีนี้คล้ายกับการจ้างงานในธุรกิจค้าปลีก เช่น 7-Eleven ที่จ้างพนักงานตามความจำเป็น

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช

ธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากคนไทยไม่สนใจทำงานในตำแหน่งแรงงานระดับล่าง เช่น ล้างจานหรือทำความสะอาด ซึ่งเป็นงานที่ต้องการความอดทนสูง

กลุ่มเจนซี (Generation Z) ที่เกิดระหว่างปี 1997-2012 มักไม่สนใจทำงานประจำที่มีเวลาทำงานตายตัว เช่น งานในร้านอาหารหรือโรงแรม พวกเขามักมองหางานที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า เช่น งานพาร์ทไทม์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในธุรกิจที่ต้องการแรงงานประจำ

หนึ่งในปัญหาหลักในตลาดแรงงานไทยคือ การขาดทักษะที่จำเป็นในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะทักษะภาษาอังกฤษและการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความกดดันสูง เช่น ในตำแหน่งผู้จัดการร้านอาหาร ผู้สมัครที่จบใหม่มักขาดทักษะเหล่านี้ ทำให้ธุรกิจต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวในหลายภาคส่วน