สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผย ผลการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจบริการที่มีศักยภาพสูงของไทย พบว่า 3 กลุ่มธุรกิจที่น่าจับตาในยุคดิจิทัล ได้แก่ ซอฟต์แวร์ บริการดิจิทัล และดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
แม้ทั้งสามธุรกิจจะมีบทบาทต่อการสร้างงานและการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) แล้ว ยังถือว่ายังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก
จากข้อมูลของ Gartner บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก พบว่าในปี 2566 มูลค่าการใช้จ่ายด้านบริการ IT ทั่วโลกอยู่ที่ 4.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อนหน้า และคาดว่าปี 2567 จะพุ่งถึง 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอีก 7.5%
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก Trademap ระบุว่า การค้าบริการระหว่างประเทศในกลุ่ม “โทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และข้อมูลสารสนเทศ” มีมูลค่า 1.43 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2565 คิดเป็น 10.98% ของการค้าบริการทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจโลก
จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระบุว่า ในปี 2566 ธุรกิจบริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลของไทยมีมูลค่า 567,057 ล้านบาท เติบโต 9.79% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ GDP ภาคบริการด้านข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารมีสัดส่วน 2.82% ของ GDP ไทย และ 4.63% ของ GDP ภาคบริการ
3 กลุ่มธุรกิจมาแรงในปี 2566
1. ธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการซอฟต์แวร์
ตัวอย่างธุรกิจสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาโปรแกรมเฉพาะทาง ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป และโปรแกรมเว็บไซต์ตามความต้องการ
ธุรกิจเด่น ได้แก่ การขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต บริการตลาดกลางออนไลน์ ธนาคารและประกันภัยบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
3. ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์
ธุรกิจหลัก ได้แก่ การผลิตรายการโทรทัศน์ ขายปลีกเกมและซอฟต์แวร์ และการผลิตภาพยนตร์
แม้ธุรกิจเหล่านี้จะมีศักยภาพสูง แต่ยังเผชิญกับข้อจำกัดสำคัญ เช่น การถือครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดและยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจบริการดิจิทัล สนค.เสนอแนวนโยบาย 4 ด้าน ดังนี้