โฮมช็อปปิ้งบูมโกยยอดหมื่นล้านชี้พฤติกรรมนักช็อปเปลี่ยนหันคลิกออนไลน์แทนร้านค้าปลีก
นายกสมาคมฯ ชี้ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งโต 20% คาดสิ้นปีทะลุ 1 หมื่นล้าน สวนกระแสเศรษฐกิจ เหตุจากเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อสินค้า ลดช้อปปิ้งผ่านช่องทางค้าปลีก หันสู่ออนไลน์และทีวีช้อปปิ้ง ขณะที่ผู้ประกอบการปรับตัวล่วงหน้าให้ความสำคัญทีวีดิจิตอลรองรับ มั่นใจครึ่งปีหลังตลาดยังโตต่อเนื่อง
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ นายกสมาคมทีวีโฮมช็อปปิ้ง (ประเทศไทย) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาพรวมธุรกิจโฮมช้อปปิ้งในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 20% ขณะที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้งและอยู่ในสมาคมจำนวน 6 บริษัทต่างมีการเติบไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15-20% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งมีอัตราการเติบโต เป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่องทางค้าปลีกเพิ่มมากขึ้น และการปรับตัวของผู้ประกอบการที่หันมาให้ความสำคัญกับช่องทางทีวีดิจิตอล เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันที่ดูทีวีดิจิตอลมากกว่าการดูทีวีดาวเทียม
"จากการสอบถามสมาชิกของสมาคมพบว่า ผลการดำเนินงานของทุกบริษัทเติบโตทั้งสิ้น ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังซื้อของประชาชนลดลง แต่แท้จริงแล้วกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้หายไป เพียงแต่คนระมัดระวังการใช้จ่าย และเปลี่ยนสถานที่ซื้อสินค้า จากเดิมที่ซื้อผ่านช่องทางค้าปลีก หันมาซื้อในช่องทางของออนไลน์หรือโฮมช้อปปิ้งมากขึ้น ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งจึงแข่งกับธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก"
สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังยังเชื่อว่าธุรกิจโฮมช้อปปิ้งยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะกำลังซื้อไม่ได้ลดน้อยลง และอัตราการว่างงานไม่ได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ผู้บริโภคจะใช้จ่ายผ่านช่องทางใดมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาพรวมในปีนี้ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งจะมีมูลค่าตลาดรวม 1 หมื่นล้านบาท (เฉพาะผู้ประกอบการในสมาคม) หากรวมผู้ประกอบการอื่นๆ ทั้งระบบตลาดรวมน่าจะมีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันในอุตสาหกรรมทีวีช้อปปิ้งมีผู้ประกอบการอยู่ 15-16 บริษัท และมีผู้ประกอบการธุรกิจโฮมช้อปปิ้งผ่านทีวี 24 ชั่วโมงจำนวน 8 ช่อง
นายทรงพล กล่าวอีกว่า ส่วนแผนธุรกิจของทีวีไดเร็คในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ยังคงใช้โมเดลธุรกิจที่ได้ปรับมารองรับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพราะโมเดลธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ช่วงไตรมาสแรกของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม ซึ่งในแต่ละปีจะมีสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดประมาณ 100 รายการ โดยสินค้าไฮไลท์ในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นเครื่องออกกำลังกายบริเวณหน้าท้อง ที่ผู้ใช้แล้วจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 มีราคาจำหน่ายประมาณ 3-4 พันบาท
"ยอดซื้อสินค้าของทีวีไดเร็คเฉลี่ยต่อบิลประมาณ 3 พันบาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะปัจจุบันกำลังซื้อของผู้บริโภคคงที่ หากผู้ประกอบการที่จับกลุ่มตลาดระดับกลาง จะไม่กระทบแต่หากเป็นตลาดแมสจะกระทบกับกำลังซื้อบ้าง เพราะกลุ่มคนระดับกลางปัจจุบันไม่ได้ตกงาน เงินในกระเป๋ายังคงอยู่เท่าเดิม เพราะกำลังซื้อลดมาล่วงหน้าแล้ว ตั้งแต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันจึงไม่ได้กระทบกับกำลังซื้อเท่าไร โดยปีนี้ทีวีไดเร็คเชื่อว่าจะสามารถทำรายได้กว่า 3.2 พันล้านตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,163 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559