"เพชรแล็บ" ตีตลาด "เพชรแท้" เหมือนเพชรทุกอย่าง ถูกกว่า 50-70%

07 พ.ย. 2566 | 23:45 น.

"เพชรแล็บ" หรือ "Lab Grown Diamond" (LGD) ตีตลาด "เพชรแท้" ความแวววาว ค่าความแข็ง คุณสมบัติ เหมือนเพชรทุกอย่าง แต่ราคาถูกกว่า 50-70% เทรนด์ฮิตคนรุ่นใหม่ ตีตลาดเพชรแท้

"เพชรแท้" หรือ "เพชรธรรมชาติ" เป็นอัญมณีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความแข็งสูงที่สุดในบรรดาอัญมณีทั้งหมด ทรงคุณค่า ราคาแพง เป็นสัญลักษณ์แห่งคำมั่นสัญญาของคู่รัก และความมั่งคั่งของผู้ครอบครอง ได้รับความนิยมจากผู้คน เพราะความสวยงาม แวววาว ระยิบระยับ และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากอัญมณีชนิดอื่นๆ

ราคาของ "เพชรแท้" หรือ "เพชรธรรมชาติ" ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เติบโตเฉลี่ยราวปีละ 4% เนื่องจากหาได้ยากขึ้น มีแนวโน้มผลิตได้ลดลง เพราะการก่อเกิด "เพชรแท้" หรือ "เพชรธรรมชาติ" ต้องใช้เวลาหลายล้านปี เกิดจากความกดดันและอุณหภูมิที่ฝังตัวอยู่ใต้พื้นโลก และถูกนำขึ้นมาพร้อมกับพวกแมคม่า(Magma) พร้อมแร่ชนิดอื่นๆทางภูเขาไฟ 

เพชรแท้ เพชรธรรมชาติ แหวนแต่งงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ "เพชรแล็บ" หรือ "Lab Grown Diamond" (LGD) จึงถูกสร้างขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเพชร ของผู้คน โดยมีราคาถูกกว่า แต่ให้คุณสมบัติที่เหมือนกับ "เพชรแท้" หรือ "เพชรธรรมชาติ"ทุกประการ

ทำความรู้จัก "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD)

"เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) เป็นเพชรที่มนุษย์ผลิตขึ้นในห้องทดลอง มีองค์ประกอบทางเคมีและคุณสมบัติทางกายภาพเหมือนกับเพชรที่มาจากธรรมชาติทุกประการ ต่างกันเพียงเรื่องแหล่งกำเนิด ซึ่งใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์  โดยอาศัยการจำลองการเกิดผลึกแบบเดียวกัน แต่ดำเนินการในห้องทดลองในระยะเวลาที่สั้นลงมากๆ จากหลายล้านปีเหลือเพียง 1-2 เดือน 

เพชร

กระบวนการผลิตเพชร Lab Grown Diamond มี 2 วิธี ได้แก่ 

1. Chemical Vapor Deposition Diamonds (CVD)

กระบวนการผลิตเพชร Lab Grown Diamond “เมล็ดคริสตัล” ซึ่งเป็นเมล็ดเพชรขนาดเล็กมาก ถูกวางไว้ในโถงเล็กๆ ที่รมด้วยก๊าซความร้อนสูง เมื่อก๊าซถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม ชั้นของคาร์บอนจะเริ่มก่อตัวบนผลึกของเมล็ดคริสตัล ทำให้เมล็ดเติบโตกลายเป็นผลึกเพชรรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส

การผลิตเพชรแล็บ ด้วยวิธี Chemical Vapor Deposition Diamonds (CVD)

2. High Pressure High Temperature Diamonds (HPHT)

กระบวนการที่จำลองการก่อตัวของเพชรในธรรมชาติ โดยการวางแผ่นแกรไฟต์ภายในเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่บดอัดด้วยแรงดันและอุณหภูมิที่สูงมาก จนทำให้แกรไฟต์เปลี่ยนเป็นเพชรได้

ผลิตเพชรแล็บ ด้วยวิธี High Pressure High Temperature Diamonds (HPHT)

ใบเซอร์ "เพชรแล็บ"

ปัจจุบัน "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) ส่วนใหญ่ได้รับการรับรองโดยสถาบัน IGI โดยใบเซอร์เพชรของ IGI จะประเมิน 4Cs การเจียระไน สี ความสะอาด และน้ำหนักกะรัต ที่แม่นยำตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด 

นอกจากนี้ GIA ก็ยังให้การรับรองเพชรจากแล็บด้วยเช่นกัน โดยพัฒนาอุปกรณ์วิเคราะห์และแยกแยะความแตกต่างระหว่างเพชรธรรมชาติและเพชร Lab Grown Diamond 

นักอัญมณีศาสตร์จึงใช้ ธาตุไนโตรเจน (N) เป็นเกณฑ์ในการแยกระหว่าง "เพชรแท้" หรือ"เพชรธรรมชาติ" กับ  "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) ออกจากกัน เพราะ ธาตุไนโตรเจน (N) จะมีเฉพาะในเพชรแท้เท่านั้น

ใบเซอร์ เพชรแล็บ

ข้อดีของ "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD)

  • มีคุณสมบัติภายนอกที่เหมือนเพชรธรรมชาติ
  • ราคาเพชร Lab Grown Diamond ต่ำกว่าราคาเพชรธรรมชาติประมาณ 50-70%
  • วัดและประเมินคุณภาพเพชรได้ตามหลัก 4Cs
  • ไม่ผ่านกระบวนการทำเหมือง

ข้อควรระวังของ"เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD)

  • ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ
  • มูลค่าเพชรลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เพราะอุปทานมีไม่จำกัด ผลิตออกมาได้เรื่อยๆ
  • ควรคำนึงถึงสถาบันที่ออกใบเซอร์ เพชร Lab Grown Diamond
  • ใช้ทรัพยากรมหาศาล เนื่องจากต้องใช้ความร้อนสูงในการผลิตเพชรขึ้นมา

ทั้งนี้ กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมซื้อ "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) มากที่สุด คือ ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z และ Millennials ซึ่งนอกจากปัจจัยทางด้านราคาแล้ว ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ยังให้ความสนใจในเรื่องแหล่งที่มาของสินค้าและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

โดยผู้ผลิต "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) สำคัญของโลก ได้แก่ จีน ซึ่งครองสัดส่วนสูงที่สุด 90% รองลงมาเป็นอินเดีย รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ    

ปัจจุบันปริมาณการผลิต "เพชรแล็บ" หรือ " Lab Grown Diamond" (LGD) เติบโตขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับปริมาณการผลิตเพชรธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยในปี 2020 การผลิตอัญมณีเพชรธรรมชาติมีปริมาณเพียง 111 ล้านกะรัต จากเดิมที่เคยมีปริมาณการผลิตสูงที่สุดในปี 2017 อยู่ที่ 152 ล้านกะรัต ในขณะที่ปริมาณการผลิตอัญมณีเพชรสังเคราะห์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 6-7 ล้านกะรัต

ที่มา : GIT , DITP , กรมทรัพยากรธรณี , ABC , GIA