ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ ล้มลุกคลุกคลาน เพื่อการเรียนรู้

04 มิ.ย. 2559 | 00:30 น.
การทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ มีน้อยเหลือเกินที่จะได้เริ่มต้นทำทุกอย่างเองตั้งแต่ต้น ยิ่งถ้าเป็นทายาทสืบทอดธุรกิจของครอบครัวด้วยแล้ว โอกาสยิ่งน้อย แต่สำหรับ "ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ" ทายาทเขาของที่ดินกว่า 1,000 ไร่ที่เกาะพะงัน แหล่งท่องเที่ยวที่ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติ เคียงคู่กับความร่วมสมัยที่กำลังคืบคลานเข้ามา เธอบอกว่า โรงแรมจันทรามาส บูติก โฮเต็ลระดับ 4 ดาว ที่เธอบริหารอยู่ทุกวันนี้ เธอสร้างขึ้นเองกับมือ ตั้งแต่วางคอนเซ็ปต์ เลือกวัสดุก่อสร้าง จนมาถึงการดูแลบริหารทุกวันนี้

"คุณสาว-ฉันทนา" บอกว่า ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวคนจีนที่บรรพบุรุษเดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาตั้งรกรากที่เกาะพะงัน และเกาะสมุย พ่อและแม่ทำธุรกิจอยู่ในพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ทำสวนมะพร้าว ค้าขาย ตัดผ้า ขายไม้ ขายเครื่องเขียน รวมจนถึงเป็นซัพพลายเออร์นำเข้าสินค้ามาขายต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะพะงัน และยังทำโรงแรมเล็กๆ ในรูปแบบบังกะโล ชื่อ "วินเวิร์ด" ด้วยการร่วมทุนกับเพื่อน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกๆ ของธุรกิจที่พักที่เกาะพะงัน เมื่อกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยราคาที่พักคืนละแค่ 10-20 บาท

ความที่มีธุรกิจหลากหลาย ลูก 4 คน จึงถูกมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบธุรกิจคนละอย่าง พี่สาวคนโต ดูแลธุรกิจเครื่องครัว และขายอาหารออร์แกนิก พี่ชายคนที่ 2 คือ ทำธุรกิจค้าส่ง อุปโภคบริโภค และทำธุรกิจโฮสเทล พี่ชายคนที่ 3 ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง และ "คุณสาว" ลูกคนสุดท้อง เริ่มต้นด้วยการทำธุรกิจโรงแรมจันทรามาส บูติกโฮเต็ลระดับ 4 ดาวแห่งแรกบนเกาะพะงัน

[caption id="attachment_58051" align="aligncenter" width="336"] ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ[/caption]

"เราเริ่มธุรกิจโรงแรมจริงจังเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เริ่มวางแผน ตอนนั้นสาวเรียนการโรงแรมจากออสเตรเลีย จบตรีรัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การเริ่มธุรกิจของลูกแต่ละคน มาจากพื้นฐานของสิ่งที่พ่อทำ ยกเว้นธุรกิจของสาว ที่มาเริ่มบุกเองตั้งแต่ต้น แต่ก็มาจากแนวคิดของพ่อ ที่อยากจะสร้างโรงแรมดีๆ ที่เป็นของคนเกาะพะงันเอง ทำให้เป็นโมเดลให้กับคนเกาะพะงันที่มีศักยภาพได้ทำเองบริหารเอง"

โรงแรมแห่งนี้เปิดมา 4 ปี ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี นักบริหารหญิงคนนี้ลุยงานเองทุกอย่าง แรกๆ ของการเริ่มต้นบริหารงานเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็เจอกับสถานการณ์การเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มากนัก แถมยังเจอปัญหาบุคลากรที่อยู่ไม่ทน เพราะเกาะพะงันเป็นเกาะเงียบๆ จะว่าไปแล้วก็ยังเวอร์จินเต็มไปด้วยธรรมชาติ คนที่ไม่ชอบความเงียบ ก็จะเหงาอยู่ไม่ได้ คนท้องที่พะงัน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มีฐานะ จึงมีธุรกิจเป็นของตัวเอง การหาทีมงานที่มีความสามารถเฉพาะทางด้านโรงแรมหาได้ยาก คนมาอยู่ก็อยู่ได้ไม่ยาว เพราะมันว้าเหว่ คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะไปทำงานที่สมุยซึ่งเจริญกว่า

"บางทีก็เหนื่อยเหมือนกัน ปกติเราสบายๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ ออกไปเลือกซื้อของเอง ผ้าซื้อเองทุกผืน ทุกชิ้น ซื้อเองหมด การบริหารพ่อปล่อยให้บริหารเอง ล้มลุกคลุกคลาน แล้วเราจะเรียนรู้เอง มันจะซึมซับไปในหัวใจเลย แรกๆ ก็เครียด คือเราไม่เคยมีลูกน้องทีละ 50-60 คน แล้วเขาเคยยกออกกันไปหมด สาวไม่เคยเจอลูกน้องยกทีมกันออกแบบนี้ แต่จริงๆ เราก็ต้องอยู่ได้ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือจะไป เราต้องอยู่ให้ได้"

ในวันนี้ "คุณสาว" บอกว่า เธอได้ลูกน้องที่ดีมาช่วยทำงาน ที่มีทั้งคนไทย และต่างด้าว และมีทีมงานระดับผู้จัดการเข้ามาช่วยดูแล เธอยอมรับว่า การเป็นผู้บริหาร หรือแม่ทัพที่ดีเพียงอย่างเดียว ธุรกิจก็คงจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่นไม่ได้ ลูกทีม หรือทีมงาน ก็ต้องแข็งแกร่งด้วย ทุกอย่างจึงจะเดินหน้าไปได้พร้อมๆ กัน

ธุรกิจโรงแรมของจันทรามาสทุกวันนี้ จึงก้าวเดินไปอย่างราบรื่น ลูกค้าต่างชาติเข้ามาต่อเนื่อง 50-60% เป็นชาวยุโรป ตามมาด้วยอิสราเอล ออสเตรเลีย และคนไทยจุดขายของเธอคือคุณภาพ ความสะอาด และบริการ เมื่อผนวกเขากับความสงบ เป็นธรรมชาติของสถานที่ ทุกอย่างจึงลงตัว สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน หรือแวะไปปาร์ตี้ในงานฟูลมูน หรือกิจกรรมปาร์ตี้บนเกาะ เป็นครั้งเป็นคราว

การขยายธุรกิจของครอบครัว "ลิ้มสุวรรณ" ยังคงเดินหน้าต่อ ปีหน้าจะได้เห็นโครงการใหญ่ๆ เกิดขึ้นอีกพอสมควร ด้วยการบริหารของ 4 พี่น้อง ที่มี "คุณสาว" ทำหน้าที่ดูแลด้านธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยมีพี่ๆ อีก 3 คน ที่รักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี เข้ามาทำหน้าที่พี่เลี้ยง ที่ปรึกษา และร่วมบริหาร เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อ ที่ต้องการสร้างงาน สร้างธุรกิจให้กับครอบครัว และคนเกาะพะงันไปพร้อมๆ กัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,162 วันที่ 2 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559