ตำรวจท่องเที่ยวปูพรมตรวจสถานประกอบการเอื้อประโยชน์ธุรกิจชาวต่างชาติ พบเป็นตัวแทนอำพราง หรือนอมินี หลอกลวงขายสินค้าด้อยคุณภาพ ทำให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย ผบก.ท่องเที่ยว สั่งดำเนินการจับกุมขั้นเด็ดขาด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวนหนึ่งได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบเป้าหมายธุรกิจท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายตัวแทนอำพราง หรือนอมินี และหลอกลวงขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพให้แก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เบื้องต้นจำนวน 6 แห่ง ได้แก่
แห่งที่หนึ่ง บริษัท อี-เอาส์ฟิตติ้ง รีสอร์ท จำกัด ย่านถนนช้างคลานในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ประกอบกิจการรีสอร์ตให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าพักโดยเชื่อว่าเจ้าของแท้จริงเป็นชาวต่างชาติ พตท.วิเชียร ไชยมงคล สว.ทท.3กก.4หัวหน้าตรวจค้นชุดที่ 4 พร้อมกำลัง ตรวจค้นบริษัทอี-เอาท์ฟิตติ้ง รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีการตรวจยึดเอกสารเพื่อตรวจสอบการเสียภาษี 2. ว.20 ตาม พรบ.ตม.มาตรา38+77
แห่งที่สอง บริษัท เจมส์แกลอรี่ เชียงใหม่ จำกัด ย่านสันกำแพง ประกอบธุรกิจเครื่องประดับเพชร ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าใช้บริการจำนวนมาก โดยอาจมีการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานหรือราคาสูงกว่าปกติ ,แห่งที่สามบริษัท รอยัลดิวตี้ ช้อป 999 จำกัด ย่านสันกำแพง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา ที่เชื่อว่าด้อยคุณภาพให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน,แห่งที่สี่ บริษัท ลานนา ลาเท็ก จำกัด ย่านหนองป่าครั่ง จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่เชื่อว่าด้อยคุณภาพให้กับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน ,แห่งที่ห้า บริษัท ไท สยาม จำกัด ย่านหนองป่าครั่ง เปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากหนังจระเข้ให้กับนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน โดยสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าด้อยคุณภาพ และ แห่งที่หก บริษัท ไทยปาร์ค สเน็คฟาร์ม จำกัด ย่านถนนวงแหวนรอบกลาง ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดจำหน่ายสินค้าผลผิตภัณฑ์ยาที่มีการโฆษณาว่าเป็นยาสกัดจากส่วนต่างๆ ของงูให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ปรากฏว่าไม่มีสรรพคุณตามที่โฆษณา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวเปิดเผยว่า การเข้าตรวจสอบผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เบื้องต้นมีเป้าหมาย 7-8 จุด โดยเป็นผลมาจากรายงานการสืบสวนเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายตัวแทนอำพรางหรือนอมินี และหลอกลวงขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพให้แก่นักท่องเที่ยว จึงนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเป้าหมายทั้งการจดทะเบียนธุรกิจการค้า, ประวัติการเสียภาษี และการประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีให้กับชาวต่างชาติ เป็นต้น ซึ่งทำให้รัฐสูญเสียรายได้ รวมทั้งตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ด้อยคุณภาพให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในประเด็นใดก็จะดำเนินตามกฎหมายทันที