“ทางหลวง” สร้างทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ 1.5 พันล้าน เชื่อม 5 จังหวัด

06 มิ.ย. 2566 | 07:56 น.

“ทางหลวง” ขยายถนน 4 เลน สร้างทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ 1.5 พันล้านบาท หนุน 5 จังหวัด แก้ปัญหารถติด หวังรองรับปริมาณการเดินทาง เชื่อมต่อระบบขนส่งในอนาคต

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 366 สายทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงินงบประมาณ 1,598.69 ล้านบาท เบื้องต้นกรมฯ ดำเนินการก่อสร้างขยายเป็น 4 ช่องจราจร ตั้งแต่ กม. 0+065 - กม. 4+500 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ จ.ลพบุรี รองรับปริมาณการเดินทางและการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

“ทางหลวง” สร้างทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ 1.5 พันล้าน เชื่อม 5 จังหวัด

ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้รับงบประมาณปี 2563 เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 366 สายทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ในช่วงที่เหลือ โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการฯ ที่ กม. 4+450 - กม. 19+310 รวมระยะทาง 14.860 กิโลเมตร ก่อสร้างเป็นมาตรฐานชั้นทางพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจร (ไป - กลับ) ผิวทางคอนกรีต หนา 25 เซนติเมตร ผิวจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.50 เมตร 
 

ขณะที่งานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและไฟกระพริบบนทางหลวง โดยมีงานก่อสร้างสะพานข้ามคลองชลประทาน จำนวน 17 แห่ง และสะพานข้ามทางรถไฟ จำนวน 1 แห่ง พร้อมก่อสร้างทางแยกบริเวณ กม. 10+950 เป็นแบบวงเวียนเพิ่มประสิทธิภาพการสัญจร  

“ทางหลวง” สร้างทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ 1.5 พันล้าน เชื่อม 5 จังหวัด

สำหรับทางหลวงหมายเลข 366 หรือ ทางเลี่ยงเมืองลพบุรี เป็นทางหลวงสายสำคัญที่เชื่อมต่อได้หลายจังหวัด เช่น จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอ่างทอง และมุ่งสู่จังหวัดนครสวรรค์ได้ มีจุดเริ่มต้น กม.ที่ 0+000 (จุดบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1) ผ่านจังหวัดลพบุรี ไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 311 ที่ กม. 19+310 (แยกสนามไชย) รวมระยะทางทั้งหมด 19.3 กิโลเมตร จากเดิมเป็นทางหลวงขนาด 2 ช่องจราจรตลอดสาย 
 

“ทางหลวง” สร้างทางเลี่ยงเมืองลพบุรีด้านใต้ 1.5 พันล้าน เชื่อม 5 จังหวัด

อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านโครงข่ายคมนาคมในการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ของคนในพื้นที่ การแก้ไขปัญหาจราจร เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย