4 วิธีพิชิต พวกชอบนินทาให้ร้ายเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ
คำพระท่านว่า “อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ” การนินทาให้ร้าย เกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่ใครจะทำใจได้ หากเรื่องที่เขาพูดถึงไม่ได้เป้นจริงซักนิด น้อยคนที่จะระงับความรู้สึก นิ่งเฉยและทำใจได้ ส่วนใหญ่ได้ยินหรือรับรู้ ก็จะรู้สึกโกรธเกรี้ยว อยากตอกกลับ
บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเสนอ 4 วิธี พิชิตพวกปากหอบปายปู ชอบนินทาให้ร้ายคนอื่น โดยไม่ก้มมองตัวเองว่า มีพฤติกรรมเลวร้ายอย่างไร เรื่องนี้ จ๊อบส์ ดีบี บอกว่า การแสดงออกว่าเรากำลังไม่พอใจ การที่เพื่อนร่วมงานกำลังนินทาเราอยู่ ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะการที่เราจะเอาชนะและรับมือกับเสียงนินทาเหล่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การแสดงความโกรธ แต่อยู่ที่การรับมืออย่างชาญฉลาดต่างหาก เราจึงจะหยุดเสียงนินทาเหล่านั้นได้
เราหยุดการกระทำของคนไม่ได้ แต่หยุดตัวเราไม่ให้ใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้นได้ หากเราไม่ใส่ใจกับสิ่งนั้น สิ่งนั้นก็จะไม่มีวันมารบกวนจิตใจของเราได้อีก การรับมือกับเสียงนินทาในออฟฟิศก็เช่นเดียวกัน หากเราจัดการกับมันได้ เราก็จะไม่ทุกข์ใจกับมันอีกต่อไป แต่จะทำอย่างไรจึงจะรับมือกับการนินทาในออฟฟิศได้
ลองใช้ 4 วิธีการเหล่านี้ แล้วการนินทาจะไม่ใช่ปัญหาของเราอีกต่อไป
- รู้ว่าเขาคุยเรื่องอะไรกัน
ก่อนที่เราจะตีโพยตีพายและโกรธเกรี้ยว ต้องรู้ก่อนว่าเพื่อนร่วมงานกำลังคุยเรื่องอะไร และเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากน้อยขนาดไหน เพราะเรื่องซุบซิบนินทาบางเรื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บางเรื่องอยู่ในระดับที่เรารับได้ เราก็ควรปล่อยไป อย่าถือสาหาความ
การฟัง ก็ต้องฟังอย่างมีสติว่าเรื่องที่เขานินทาเกี่ยวกับเรานั้น มันรุนแรงมากน้อยขนาดไหน ส่งผลกระทบกับเราจนเสียหายหรือไม่
บางครั้ง เรื่องที่ไม่มีเค้าโครงของความเป็นจริง เมื่อคนส่วนใหญ่ที่รู้ว่าความจริงคืออะไร เขาก็จะเลิกใส่ใจไปเอง แต่ถ้าเรื่องนั้นรุนแรงมาก เราก็ต้องออกมาชี้แจงว่าความจริงเป็นเช่นไร ไม่เช่นนั้นเราก็อาจจะเสียหายได้
- สร้างความเข้าใจภายในทีม
การรับมือกับการนินทาว่าร้ายในออฟฟิศ หากเรื่องนั้นสร้างความเสียหายให้กับเราเป็นอย่างมาก เราต้องสร้างความเข้าใจในเรื่องที่ถูกให้ทุกคนได้รับทราบ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานภายในทีม หรือในแผนกของเรา เราอาจจะเดินเข้าไปคุยกับหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงานถึงเรื่องราวที่ทุกคนกล่าวถึง โดยเล่าเรื่องให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา การสร้างความเข้าใจภายในทีม ไม่เพียงแต่จะเป็นโอกาสให้เราได้พูดความจริงเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้มีโอกาสปรับความเข้าใจ ให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับข่าวลือที่ได้ยินมา
- ไม่ใส่ใจกับเสียงนินทา
บางครั้งเรื่องนินทาก็เป็นเพียงข่าวลือ หาสาระความเป็นจริงไม่ได้ เป็นเพียงการกลั่นแกล้ง เรื่องบางเรื่องถูกแต่งแต้มขึ้นมา หากเราใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้มาก เราก็จะทุกข์ใจ จนไม่สามารถทำงานได้ และนั่นคือผลสำเร็จของการนินทา หากเราใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้มากไป อาจจะทำให้เราสูญเสียศักยภาพในการทำงานที่ดี เมื่อไม่สามารถทำงานได้ดีแล้ว ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงานได้
เมื่อต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนินทาในออฟฟิศ ลองเลือกที่จะปล่อยวาง เพราะการที่เราเลือกที่จะโต้ตอบออกไปอย่างรุนแรง ก็อาจจะทำให้เราเสียหายได้ และทำให้ตกเป็นข่าวให้เพื่อนร่วมงานในออฟฟิศนินทาได้มากกว่าเดิม ให้ถือเสียว่าเดี๋ยวสักพักคนก็ลืมกันไปเอง
- เผชิญหน้ากับความจริง
รับมือการนินทาในออฟฟิศ ให้พิจารณาดูว่าเรื่องที่คนทั้งออฟฟิศพูดถึงนั้น เป็นเรื่องจริง หรือใกล้เคียงกับความจริงหรือไม่ หากพิสูจน์แล้วว่ามันคือเรื่องจริง เราก็ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ชี้แจงเรื่องที่ถูก และเรื่องที่ควรจะเป็น
เชื่อได้เลยว่าข่าวลือนั้นจะมีทั้งเรื่องจริง และเรื่องไม่จริงปนกันอยู่ หากมีโอกาสได้ชี้แจงความจริง ให้เราพูดอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด เพื่อให้ทุกคนเกิดความเข้าใจอันดี มากกว่าที่จะเชื่อเรื่องนินทาที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเพียงใด หากเราพูดความจริง ทุกคนก็จะเห็นใจ และมองเห็นถึงความจำเป็นของเรา มากกว่าที่จะเอาเรื่องของเราไปพูดต่อให้ได้รับความเสียหาย
เรื่องนินทาเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ที่ทำงาน การรับมือกับเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะจัดการกับมันไม่ได้ เพียงแต่ต้องใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ การใช้อารมณ์เป็นตัวตัดสิน ไม่เพียงแต่จะทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปกันใหญ่ แต่ยังทำให้คนอื่น ๆ เชื่อข่าวลือที่เกิดขึ้นด้วย การรับมือกับการนินทาในออฟฟิศ เราจึงต้องทำอย่างมีสติ