วิธีอุทธรณ์ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" กรณีมีที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 

หลังจากวันที่ 1 มีนาคม ที่กระทรวงการคลังได้ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ปรากฏว่ามีประชาชนผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจำนวน 14.59 ล้านคน จากผู้ลงทะเบียนกว่า 22 ล้านคน

สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ อันเนื่องมาจากการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์เกินกว่าที่โครงการกำหนด สามารถยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ เพื่อขอรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 

เมื่อยื่นอุทธรณ์แล้ว ให้ติดต่อสำนักงานที่ดิน อันเป็นที่ตั้งของที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์นั้น เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 30 เมษายน 2566 โดยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ผ่าน 2ช่องทาง คือ

• ทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
• ทางหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมือง

เงื่อนไข ผู้ขอรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เกี่ยวกับการครอบครองอสังหาริมทรัพย์

ผู้ขอรับสิทธิสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือหากมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

กรณีผู้ลงทะเบียน ไม่มีครอบครัว 

• หากมีกรรมสิทธิ์ในห้องชุด ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่า เพื่อทำประโยชน์ทางการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10ไร่
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่า เพื่อประโยชน์อื่น ที่ไม่ใช่ทางการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1ไร่
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว หรือตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ใช้เพื่ออยู่อาศัย พร้อมทำการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10ไร่ หรือกรณีใช้ประโยชน์ที่ดินด้านอื่นที่ไม่ใช่การเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1ไร่
• กรรมสิทธิ์ที่มีในที่ดินทั้งหมดต้องมีพื้นที่รวมกัน ไม่เกิน 10ไร่สำหรับการเกษตร และรวมกัน ไม่เกิน 1ไร่ กรณีใช้ประโยชน์ในด้านอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร

กรณีผู้ลงทะเบียน มีครอบครัว 

• หากมีกรรมสิทธิ์ในห้องชุด ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร ต่อคนในกรณีเป็นเจ้าของแยกกัน และต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่า เพื่อทำประโยชน์ทางการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20ไร่
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเปล่า เพื่อประโยชน์อื่น ที่ไม่ใช่ทางการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2ไร่
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว หรือตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ต่อคน ในกรณีเป็นเจ้าของแยกกัน และมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ในกรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน
• หากมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ใช้เพื่ออยู่อาศัย พร้อมทำการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20ไร่ หรือกรณีใช้ประโยชน์ที่ดินด้านอื่นที่ไม่ใช่การเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2ไร่
• กรรมสิทธิ์ที่มีในที่ดินทั้งหมดต้องมีพื้นที่รวมกัน ไม่เกิน 20ไร่สำหรับการเกษตร และรวมกัน ไม่เกิน 2ไร่ กรณีใช้ประโยชน์ในด้านอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร

ทั้งนี้ การตรวจสอบสิทธิของผู้ลงทะเบียนจะตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้ลงทะเบียนก่อน (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนที่มีครอบครัว ผ่านการตรวจสอบในเกณฑ์บุคคลแล้ว จึงตรวจสอบคุณสมบัติตามเกณฑ์ครอบครัวในขั้นตอนต่อไป