วัดช่วงชก 3 เจ้าสัว เบียร์ช้าง-สิงห์-คาราบาวแดง

26 ม.ค. 2566 | 09:43 น.

เจาะธุรกิจเบียร์ช้าง-สิงห์-คาราบาวแดง วัดช่วงชก 3 เจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี-สันติ ภิรมย์ภักดี -เสถียร เสถียรธรรมะ หลังคาราบาวแดง ประกาศชนชิงส่วนแบ่งตลาดเบียร์ 2.6 แสนล้านบาท

ธุรกิจตลาดน้ำเมาของไทยแข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเบียร์ที่มีสองขาใหญ่ครองส่วนแบ่ง "ตลาดเบียร์ไทย" สูงถึง 95% ของปริมาณยอดขายทั้งหมดในประเทศ นั่นคือค่าย"บุญรอดบริวเวอรี่" เจ้าของเบียร์ สิงห์ และลีโอ ส่วนอีกเจ้า คือ "ไทยเบฟเวอเรจ" เจ้าของเบียร์ ช้าง อาชา และ เฟดเดอร์บรอย

ล่าสุดตลาดเบียร์ไทย กำลังจะมีคู่แข่งเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งในตลาดเบียร์มูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาทเพิ่มอีกราย หลังบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ประกาศเตรียมเปิดตัวเบียร์ยี่ห้อตัวเอง หลังทุ่มเงินไปกว่า 4,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตที่จังหวัดชัยนาท

“เสถียร เสถียรธรรมะ” ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คาราบาวกรุ๊ป ระบุว่า โรงงานผลิตเบียร์ของคาราบาวที่จังหวัดชัยนาท มีกำลังการผลิตสูงถึง 400 ล้านลิตรต่อปี มีแผนเปิดเปิดตัวและวางขายประมาณไตรมาส 4 ปี 2566 นี้ ซึ่งจะผลิตออกมาประมาณ 2-3 รสชาติ 

ภาพประกอบข่าวธุรกิจตลาดเบียร์ไทย

ปฎิเสธไม่ได้ว่าการกระโจนเข้ามาชิงส่วนแบ่งธุรกิจเบียร์ของคาราบาวกรุ๊ปครั้งนี้มีความท้าทายอย่างมาก เพราะต้องชนกับ 2 ผู้เล่นรายใหญ่คือ “สิงห์” ค่ายบุญรอดบริวเวอรี่ ของตระกูล"ภิรมย์ภักดี" นอกจากนี้ยังต้องชนกับ”ช้าง” ของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ อาณาจักรน้ำเมาของ เจ้าสัว"เจริญ สิริวัฒนภักดี"

นายเสถียรอธิบายเหตุผลของการทำตลาดเบียร์ว่า ไม่ใช่การเข้ามาแข่งขันกับรายใด แต่บริษัทมองเห็นโอกาสทางการตลาดเป็นปัจจัยสำคัญ การดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาของกลุ่มคาราบาวแดงไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง ก็ต้องต่อสู้กับเจ้าตลาดทั้ง เอ็ม-150 กระทิงแดง ที่ยืนหยัดเป็นเจ้าตลาดมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีกที่มองเห็นศักยภาพการเติบโตได้ทั้งสิ้น

“ไม่คิดจะแข่งกับใคร ตอนทำเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงยังหาเงินทุนอยู่เลย แต่การจะรุกตลาดไหน มองโอกาสเป็นหลัก หากคิดว่าต้องแข่งขันอาจกลัวคู่แข่งก่อน”

เหตุผลของการทำตลาดเบียร์ เพราะต้องการทลายข้อจำกัดในการเติบโตธุรกิจสุรา ทั้งสุราสี วิสกี้ โซจู เป็นต้น ซึ่งช่องทางจำหน่ายหลักคือร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิงต่าง หรือออนพรีมีส

“เป็นไฟต์บังคับให้เราทำเบียร์ หลังจากทำเหล้าแล้ว เรารู้สึกว่าโอกาสเติบโตยาก เพราะต้องยอมรับว่าเหล้าสี วิสกี้ โซจู ไม่ว่าจะเป็นเทนโดะ กาแลคซี แทยัง ฯ ที่เรามี ต้องขายในร้านอาหาร ผับ บาร์ฯ มาสุด แต่ช่องทางออนพรีมีสดังกล่าว เน้นขายเบียร์มากกว่า เราจึงต้องหาทางสร้างอำนาจต่อรอง”

วัดช่วงชกเบียร์ช้าง-สิงห์-คาราบาวแดง

หากดูจากการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2665 ของนิตยสาร Forbes ต้องยอมรับว่าความมั่งคั่งของ “เสถียรธรรมะ”มหาเศรษฐีอันดับ 24 ของไทย สินทรัพย์รวม 5.28 หมื่นล้านบาท ยังเป็นรอง เจ้าสัว"เจริญ สิริวัฒนภักดี” มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของไทย  สินทรัพย์รวม 3.94 แสนล้านบาท และ "สันติ ภิรมย์ภักดี" มหาเศรษฐีอันดับ 15 ของไทย  สินทรัพย์รวม 7.04 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานของคาราบาวกรุ๊ปทั้งรายได้และกำไรก็ยังเป็นรองกลุ่มไทยเบฟเวอเรจและบุญรอดบริวเวอรี่ 

โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) รายงานงบการเงินในปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 507,789 ล้านบาท มีรายได้จากการขาย ตุลาคม 2564-กันยายน 2565 จำนวน 2.72 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 34,505 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากธุรกิจเบียร์ 45% หรือ 122,489 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,799 ล้านบาท

ส่วนบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จากข้อมูลงบการเงินนำส่งปี 2564 พบว่า มีสินทรัพย์รวม 52,969 ล้านบาท หนี้สินรวม 21,990 ล้านบาท รายได้รวม 10,645 ล้านบาท รายจ่ายรวม 5,326 ล้านบาท โดยมีผลประกอบการเป็นกำไร 5,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.67%

นอกจากนี้บุญรอดบริวเวอรี่ยังมีบริษัทผลิตในเครือที่ทำธุรกิจเบียร์ อีก 4 แห่ง มีรายได้รวมกว่า 78,634.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,825.2 ล้านบาท ดังนี้

  1. บริษัท สามเสน บริวเวอรี่ จำกัด ปี 2564 มีรายได้รวม 117.9 ล้านบาท รายจ่ายรวม179.7 ล้านบาท ขาดทุน 61.9 ล้านบาท
  2. บริษัท ปทุมธานี บริวเวอรี่ จำกัด ปี 2564 มีรายได้รวม 22,583.8 ล้านบาท รายจ่ายรวม 21,545.4 ล้านบาท กำไรสุทธิ 823.2 ล้านบาท
  3. บริษัท ขอนแก่น บริวเวอรี่ จำกัด ปี 2564 มีรายได้ 25,941.14 ล้านบาท รายจ่ายรวม 25,598.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 306.1 ล้านบาท
  4. บริษัท สิงห์ เบเวอเรช จำกัด 33,349.4 ล้านบาท รายจ่ายรวม 32,441.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 757.8 ล้านบาท

ส่วนงบการเงินและผลการดำเนินงานของคาราบาวกรุ๊ปในช่วง 9 เดือนปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 19,935 ล้านบาท รายได้รวม 14,725 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,878 ล้านบาท

ต้องจับตาดูว่าคาราบาวแดงจะใช้กลยุทธ์อะไรมาเจาะตลาดชิงส่วนแบ่งจาก 2 ค่ายยักษ์อย่างเบียร์สิงห์ และเบียร์ช้าง