BJC ปูพรมเปิดร้าน “โดนใจ” 30,000 ร้านค้าชิงเค้กค้าปลีกตลาดล่าง

19 ม.ค. 2566 | 02:40 น.

BJC รุกค้าปลีกตลาดร้าน ปั้นโชห่วยโมเดลใหม่แข่งบิ๊กทุน ปักเป้าออนทัวร์ 4 ภาคปูพรมขยายร้าน “โดนใจ” ครบ 8,000 ร้านค้าในปี2566 และเติบโตสู่ 30,000 ร้านค้าภายในปี 2570

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี  เปิดเกมบุกตลาดค้าปลีกตลาดล่างต่อหลังเปิดตัว โมเดลธุรกิจ “ร้านโดนใจ” ในปี 2565 ที่ผ่านมา เร่งหาแนวร่วมพันธมิตรกว่า 30 บริษัท เติมของเข้าร้านตอบโจทย์ดีมานด์ลูกค้า ปี2566ลุยต่อปูพรมออนทัวร์ 4 ภาคเปิดร้านโดนเพิ่มครบ 8,000 ร้านค้า และขยับสู่ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิด ร้านโดนใจหรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ในปี 2565 ที่ผ่านมามีร้านโชห่วยเข้าร่วมโมเดลธุรกิจร้านโดนใจแล้วกว่า 1,200 ร้านค้า สำหรับปี 2566 นี้นอกจากระบบ POS หรือระบบขายหน้าร้าน และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจจากทีมผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ร้านโชห่วยสามารถสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคพร้อมกับจัดเก็บข้อมูลต่างๆเพื่อนำไปขยายผลเพื่อวางแผนการตลาดในอนาคตให้สอดรับกับพื้นที่แล้ว หนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือการหาคู่ค้า

 

ซึ่งบีเจซีเปิดตัวพันธมิตรกว่า 30 บริษัทเพื่อให้ร้านโดนใจมีสินค้าและผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายที่หลากหลายแบรนด์ ในราคาที่เหมาะสม อาทิ โค้ก แฟนต้า เนสกาแฟ ไฮยีน  บรีส ดาวน์นี่ นีเวีย แอทแทค เปา คอลเกต ไฟน์ไลน์ ดัชมิลล์  แลคตาซอย สิงห์ มาม่า ไวไว เบอร์ดี้ น้ำมันมรกต ข้าวเบญจรงค์ เด็กสมบูรณ์  เลย์ อิงอร ปินโต้ ข้าวตราแตงโม ซอสม้าบิน ขนมปูจ๋า ซีพี-เมจิ บีทาเก้น ขนมปังมิงโก้ และแหนมดอนเมือง เป็นต้น 

BJC ปูพรมเปิดร้าน “โดนใจ”  30,000 ร้านค้าชิงเค้กค้าปลีกตลาดล่าง

รวมทั้งพันธมิตรในกลุ่มสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เพื่อสร้างทุนให้กับผู้ประกอบการที่สนใจที่จะเปิดร้านโดนใจในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ  สำหรับเป้าหมายขยายแพลตฟอร์มเครือข่ายร้านโดนใจในปี 2566 วางเป้าไว้ที่ 8,000 ร้านค้า โดยมีการประชาสัมพันธ์และเตรียมลงพื้นที่ผ่านโครงการโดนใจออนทัวร์ เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมองค์ความรู้ให้กับร้านโชห่วยในพื้นที่ต่างๆ โดยในไตรมาสที่ 1 จะเริ่มจากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคกลางโดยพื้นที่หัวเมือง เช่น อุบลราชธานี ขอนแก่น ภูเก็ต และชลบุรี เป็นต้น

 

“จากข้อมูลร้านโชห่วยทั่วประเทศที่มีกว่า 400,000 ร้านค้า เรามองว่านี่คือโอกาสที่ร้านโชห่วยต่างๆ จะปรับการบริหารจัดการ เพื่อทำให้ร้านค้ากลายเป็นที่ร้านที่โดนใจถูกใจและสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคแพลตฟอร์มร้านโดนใจมีจุดเด่นที่ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยสามารถเลือกลงทุนและสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไร ใช้งบลงทุนที่ไม่สูง ซึ่งรูปแบบของร้านแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.บีเจซีจะใช้เครือข่ายของบิ๊กซีเป็นคนจำหน่ายสินค้าให้กับร้านค้าในชุมชน 2.นำเอาระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นเข้าไปเสริมแกร่งธุรกิจให้กับร้านโชห่วย”

 

สำหรับการกระจายสินค้าร้านโดนใจจะใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีอยู่ทั่วประเทศเข้ามาเป็นเครือข่ายในการกระจายสินค้า ขณะที่การปรับปรุงร้านค้านั้นหากผู้ประกอบการต้องการปรับโฉมหรือตกแต่งให้ดูทันสมัยสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของงบประมาณที่ตัวเองเห็นสมควร 

 

โดยเป้าหมายระยาวต่อจากนี้วางเป้าเปิดร้านโดนใจให้เติบโตสู่ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 พร้อมกันนี้ยังพัฒนาโครงการโดนใจในเวียดนามด้วยการใช้ต้นแบบจากไทย ถือเป็นหนึ่งจุดหมายที่สำคัญในการนำสินค้าไทยไปขายยังภูมิภาคอาเซียน และสอดรับกับวิสัยทัศน์บีเจซีที่พร้อมเป็นผู้นำในตลาดโลกด้วยสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ