“ศักดิ์สยาม” แนะ รฟม. รอศาลปกครองตัดสิน สางคดีรถไฟฟ้าสายสีส้ม

15 ธ.ค. 2565 | 08:33 น.

“ศักดิ์สยาม” แนะ รฟม. รอศาลปกครองตัดสิน สางคดีรถไฟฟ้าสายสีส้ม หวั่นเกิดข้อกังขาประชาชน ฟาก BEM จ่อลงนามสัญญาภายในไตรมาส 1 ปี 66

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงฯ ยังไม่ได้รับรายงานผลการหารือกับเอกชนผู้ชนะการประมูล รวมทั้ง รฟม.ยังไม่มีการรายงานเรื่องการลงนามสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งในส่วนของกระทรวงฯ ได้กำชับไปยัง รฟม.มาโดยตลอด ให้ดำเนินโครงการนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องรอกระบวรการยุติธรรมที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการนี้

 

“เรื่องสายสีส้มส่วนตัวได้ฝากไปยัง รฟม.มาตลอดว่าถ้าหากยังไม่เคลียร์ ไม่อยากให้ทำ เพราะอะไรที่จะทำต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ต้องโปร่งใส ไม่มีข้อกังขาจากประชาชน ซึ่งเรื่องทั้งหมดตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของศาลพิจารณา ดังนั้นถ้าเราตัดสินใจทำอะไรไปก่อน และเมื่อศาลตัดสินออกมาไม่ตรงกับที่เราทำ ก็จะเกิดปัญหาตามมา ซึ่งจะเป็นปัญหาที่แก้ไขยากกว่าการรอคำตัดสิน” 
 

ส่วนกรณีการรอคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มล่าช้า โดยเฉพาะส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ปัจจุบันงานโยธาดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ เนื่องจากสัญญาร่วมลงทุนรวมงานเดินรถและติดตั้งระบบตลอดเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งรวมถึงช่วงตะวันออกด้วย กระทรวงฯ มองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรอ แม้การเปิดให้บริการจะล่าช้าออกไปบ้าง เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใสและไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง 

 

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระบุว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ความก้าวหน้างานโยธา 98.48% ส่วนการประมูลงานโยธาช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - บางขุนนนท์ และสัญญาการเดินรถทั้งระบบช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาร่วมลงทุน โดยก่อนหน้านี้ รฟม.ได้เปิดประกวดราคาและได้เอกชนที่ยื่นข้อเสนอและผ่านเกณฑ์ประเมินสูงสุด คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2566