ทีวียึดเบอร์1 เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดเดือนกันยายน2565

17 ต.ค. 2565 | 08:58 น.

เม็ดเงินโฆษณาเดือนกันยายน 2565 บวก 18.79% แม้บิ๊กเนมลดการใช้เงินโฆษณายกแผง โดยสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 54%

นีลเส็น เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงมกราคมถึงกันยายนปี 2022 มูลค่าเม็ดเงินสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วโดยมูลค่าอยู่ที่ 88,108 ล้านบาท ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 54% ขณะที่ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น +18.79% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

เม็ดเงินโฆษณาเดือนกันยายน 2565

 

ภาพรวมใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2022 ช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน อุตสาหกรรมได้แก่ กลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 4,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +18%, กลุ่ม Travel (การท่องเที่ยว) มูลค่า 1,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +120% ขณะที่กลุ่ม Telecommunication (โทรคมนาคม) มูลค่า 2,442 ล้านบาท ลดลง -16% 

 

 

ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2022 โดย 3 ลำดับแรกได้แก่ บริษัท UNILEVER THAI TRADING CO.,LTD. มูลค่า 2,785 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว  -24% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาคือ ซันซิล ครีมนวดเซรั่ม ช่วยปกป้องผมแตกปลาย ทางสื่อทีวีมูลค่า 34 ล้านบาท รองลงมาคือ วาสลีน ยูวี เอ็กซ์ตร้า ไบรท์เทนนิ่ง #ผิวดีเต็มที่ได้สุด ทางสื่อทีวีมูลค่า 25 ล้านบาท

 

บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 2,113 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว -7% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาคือ เนสกาแฟ รวยทั่วทุกภูมิภาค ทางสื่อทีวีมูลค่า 17 ล้านบาท รองลงมาคือ ไมโล หลอดกระดาษรุ่นใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทางสื่อทีวีมูลค่า 14 ล้านบาท

 

 

  บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,802 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +5% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือ ออรัลบี ฟาสต์ไวท์ ช่วยให้ฟันขาวขึ้นใน 3 วัน ทางสื่อทีวีมูลค่า 27 ล้านบาท รองลงมาคือ ดาวน์นี่ สูตรช่วยป้องกันผ้ายับ ทางสื่อทีวีมูลค่า 24 ล้านบาท

 

ขณะที่นายภวัต รองประธานกรรมการ Media Insight (Thailand) และผู้อำนวยการธุรกิจสายงานวางแผนกลยุทธ์สื่อ MI เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสื่อไตรมาส4 ปีนี้จากเดิมที่คาดการณ์ว่าการเปิดประเทศและฟุตบอลโลกที่จะมาปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมน่าจะส่งผลดีกับอุตสาหกรรม ประกอบกับการจัด Event หลายๆงานที่กลับมารวมทั้งวิถีชีวิตของคนกลับมาเป็นปกติมากขึ้น  แต่สุดท้ายแล้วโมเมนตัมอาจจะไม่ได้ดีเท่าที่ควร

ปีนี้ทั้งปีอุตสาหกรรมสื่อน่าจะเติบโต 7.4 % ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้จากเดิมคือ 10% เมื่อต้นปีซึ่งคาดการณ์ว่าโอมิครอนน่าจะจบเกมได้เร็วและจะส่งผลดีกับการเปิดประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ณวันนั้นปัจจัยเรื่องของเงินเฟ้อยังไม่รุนแรงแม้จะมีปัจจัยในเรื่องของสงครามรัสเซียยูเครนแล้ว

"ปัจจัยลบทางอ้อมจากสงครามรัสเซียยูเครนเช่นค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าสูง ทำให้มีผลกับต้นทุนเพราะไทยอิงกับค่าเงินหยวนเยอะทำให้ตัวเลขคาดการณ์ปีนี้ตัวเลขน่าจะอยู่ที่ประมาณ + 7.4% เพราะเกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อ ต้นทุนการผลิตต่างๆรวมถึงค่าครองชีพประกอบกับการซ้ำเติมของผู้ประกอบการและผู้บริโภคเองที่กำลังซื้อยังไม่ได้กลับมาดีพอ จึงทำให้ภาพรวมยังไม่ดีเท่าที่ควรแม้จะมีปัจจัยบวกในเรื่องการมูฟออนจากโควิด และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวแต่ปัจจัยบวกไม่ได้ส่งผลในวงกว้างอย่างเพียงพอนักที่จะทำให้เกิดความต่อเนื่องตามที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ตอนต้นเพราะปัจจัยลบมีมากกว่า"