ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก

11 ก.ค. 2565 | 08:05 น.

เทรนด์ Pet Humanization เขย่าตลาดสัตว์เลี้ยง 4.18 หมื่นล้านคึกคัก ปลุกผู้เล่นงัดนวัตกรรม เทคโนโลยีเป็นจุดขาย ชิงกำลังซื้อลูกค้า หลังพบยอดใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์เฉลี่ย 14,200 บาทต่อตัวต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นทั้งในกลุ่มสินค้าและบริการ

จากเทรนด์ผู้บริโภคที่อยู่เป็นโสดมากขึ้น คู่รักที่ไม่มีบุตร รวมถึงกลุ่ม LGBT และกลุ่มผู้สูงวัย บวกกับสถานการณ์โควิดที่บังคับให้ผู้คนอยู่ติดบ้านนานขึ้นและเกิดกระแส Pet Humanization ที่ผู้คนต้องการจะเลี้ยงสัตว์ ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา มีการดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักเหล่านี้เป็นอย่างดีเฉกเช่นลูก เสมือนเป็นสมาชิก ในครอบครัว ส่งผลให้กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่นิยมเลี้ยงสัตว์เป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากอินโดนีเซีย

  ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก              

ขณะที่คาดการณ์ว่าตลาดธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั่วโลกในปี 2569 จะมีมูลค่าสูงถึง 6.9 ล้านล้านบาท โดยภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5-10% ต่อปี มีมูลค่าราว 4.18 หมื่นล้านบาทในปี 2565 เติบโตจากปีก่อน 10% โดยในหมวดอาหารมีสัดส่วนประมาณ 45% ตามด้วยธุรกิจดูแล/รักษาสัตว์ ทั้งโรงพยาบาล, คลินิกสัตว์,โรงแรม,ร้านตัดขนสุนัข ฯลฯ 32% และเสื้อผ้า/เครื่องประดับ 23% ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วเจ้าของสัตว์เลี้ยงจะมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 14,200 บาทต่อปี

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก
โดยกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ที่ยังครองอันดับ 1 ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสัตว์ประเภทพรีเมียม ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดอาหารสัตว์ทั่วโลกที่เติบโต 4-5% ต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากคนรักสัตว์มองอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมมาดูแลสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น

 

รวมไปถึงบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สปา โรงแรมสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาล คลินิกสัตว์ และศูนย์บริการสุขภาพสัตว์ (Pet Wellness) ซึ่งเป็นบริการรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ครบทุกมิติทั้งการตรวจเช็คสุขภาพ ลดความเครียด สร้างความสุข ซึ่งจะช่วยยืดอายุสัตว์เลี้ยงให้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้วินิจฉัยโรคและรักษาได้อย่างแม่นยำ

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการบริหาร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจุบันกลุ่มอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรม กลายเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์มากขึ้น เช่น ปลอกคออัจฉริยะที่ช่วยวัดค่าต่างๆ ในร่างกาย ตั้งแต่ชีพจรการเต้นของหัวใจ คุณภาพการนอน อุณหภูมิร่างกาย รวมไปถึงความเจ็บป่วย เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเก็บข้อมูลและประมวลผล, กล้องที่คอยถ่าย VDO สัตว์เลี้ยง สามารถดูผ่านมือถือได้แบบเรียลไทม์, เครื่องให้อาหารอัจฉริยะ, อุปกรณ์ทำความสะอาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ เข้ามาตอบโจทย์ความเป็น Petaverse มากขึ้น

 

สอดรับกับนางสาวพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ภายใต้อาร์เอสกรุ๊ป ที่กล่าวแสดงความคิดเห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสุขภาพที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงโดยทำการวิจัยและพัฒนาสูตรเพื่อนำกัญชงมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและพร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชงเป็นตัวแรกสำหรับสัตว์เลี้ยง คือ

 

Lifemate Hemp Seed Oil แชมพูเมล็ดกัญชง สำหรับสุนัขและแมว สกัดจากน้ำมันเมล็ดกัญชงและสมุนไพรธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี 12 ชนิด ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง น้องเลียขนได้ไม่เป็นอันตราย ไม่มีกลูเตน ประกอบไปด้วย 2 สูตร ได้แก่ สูตร Sensitive Skin สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย อ่อนโยนต่อผิว สูตร Soft & Silky เพื่อขนนุ่ม ลดการหลุดร่วงของเส้นขน”

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก               

“เรามองเห็นโอกาสที่จะเข้าไปเติมเต็มช่องว่าง ตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์ที่ต้องการมือโปรมาช่วยแบ่งเบาภาระ เพื่อคลายความวิตกกังวล และร่วมกันดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีความสุขมากขึ้น โดยนำความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ และประสบการณ์ในการเลี้ยงสัตว์มาพัฒนาต่อยอด เป็น “MyFriend” แอปพลิเคชันดูแลสัตว์เลี้ยงครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย”

              

นายแมทธิว แฮร์วิยาร์ด เลอ เปลเลต์ Co-founder และ CEO บริษัท ไทย อินโนเวทีฟ เทคโนโลยี จำกัด ยังบอกอีกว่า การระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นิยมใช้การสื่อสารออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซขยายตัวอย่างรวดเร็ว และแอปพลิเคชั่นดูแลสัตว์เลี้ยงก็เป็นหนึ่งในโจทย์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้เลี้ยงยุคใหม่

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก

โดย “MyFriend” เกิดขึ้นจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CUVET) ในเบื้องต้นได้เปิดบริการ 4 ฟีเจอร์แรก ประกอบด้วย Healthcare จัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ การฉีดวัคซีน การรับยา Insurance บริการการทำประกันสัตว์เลี้ยง Shop เลือกซื้อสินค้า อาหาร และของใช้ที่คัดเลือกมาสำหรับสัตว์เลี้ยง และฟีเจอร์ Magazine แหล่งรวมความบันเทิงและสาระที่เชื่อถือได้ผ่านบทสัมภาษณ์ สาระน่ารู้ เคล็ดลับ สูตรอาหารสุขภาพ และคำแนะนำจากสัตวแพทย์

              

ขณะที่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษา เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โดยสัตวแพทย์หญิง นวพร ชวนปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีในการรักษาสัตว์ หลายคนเข้าใจว่าคือ การพัฒนาอุปกรณ์ขึ้นมาเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วนวัตกรรมไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

แต่จะรวมไปถึงเรื่องของความรู้ใหม่ และเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสัตว์ เช่นเดียวกับการพัฒนายามากมายที่มีความทันสมัย เหมาะสมกับโลกในยุคปัจจุบัน โดยนวัตกรรมเหล่านี้หากนำมาร่วมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยแล้วจะช่วยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีในการรักษาโรคของสัตว์ได้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก               

“ด้วยนวัตกรรมมากมายที่มีอยู่ตอนนี้ ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ การรักษา และยาต่างๆ รวมไปถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ และการดูแลที่ทันสมัย ทำให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้น เช่นเดียวกับนวัตกรรมด้านเวชศาสตร์การชะลอวัย ซึ่งคุณหมอก็สามารถวินิจฉัยว่า เมื่อถึงช่วงวัยนี้น้องหมา หรือน้องแมวจะต้องได้รับสารอาหารอย่างไรบ้าง

 

หรือตรวจสุขภาพ การดูแลแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับช่วงเวลานั้น ที่สำคัญอีกอย่างคือการใช้นวัตกรรมด้านการเก็บข้อมูลเข้ามาช่วยทั้งข้อมูลลูกค้า สัตว์เลี้ยง เวชระเบียนสัตว์ป่วย ทำให้เกิดความรวดเร็วในการรักษาสัตว์ และยังช่วยให้วิเคราะห์สถิติความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อหาทางเฝ้าระวังและรับมือได้ดีขึ้น”

ว้าว! นวัตกรรม-เทคโนโลยี ล้ำๆ ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยง คึกคัก               

สุดท้ายนายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI กล่าวว่า จากงานวิจัย Fortune Business Insights แสดงให้เห็นว่าภาพรวมตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2564 มีมูลค่า 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีมูลค่า 8.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 8% ต่อปี และคาดการณ์ว่าแนวโน้มตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงของโลกในปี 2572 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ย 5.03% อีกทั้งยังมีการจับจ่ายซื้ออาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ให้กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นอีกด้วย

              

ทั้งนี้ AAI มีแผนเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อช่วงชิงโอกาสทางการค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น โดยปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับการเติบโตและโอกาสทางธุรกิจในอนาคตยกระดับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทให้เป็นแบรนด์ระดับโลกผ่านพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในหลากหลายแบรนด์

 

เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกตลาดย่อย และมีผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภทปัจจุบัน อาทิ แบรนด์มองชู และแบรนด์มาเรีย เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดสินค้าพรีเมียม ขณะที่แบรนด์มองชู บาลานซ์ และแบรนด์ ฮาจิโกะเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดมวลชนและแบรนด์โปร เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก (Low-end Market)

 

หน้าที่ 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,799 วันที่ 10-13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565