พร้อมแล้ว ส่อง 6 แอร์ไลน์ ่เล็งเปิดบิน "กวางโจว" เริ่ม 18 มิ.ย.นี้

14 มิ.ย. 2565 | 23:00 น.

"กพท." เผย 6 แอร์ไลน์ ่เล็งเปิดบิน "กวางโจว" หลังจีนเปิดโควตาการบิน 2 ไฟลต์ ต่อสัปดาห์ เริ่ม 18 มิ.ย.นี้ ฟากจีนเพิ่มมาตรการเข้ม พบผู้โดยสารติดโควิด งดบินทันที

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน แจ้งว่า ประเทศจีน ได้เริ่มทยอยเปิดการเดินทางระหว่างประเทศแล้ว โดยในส่วนของประเทศไทยได้รับโควตาให้สามารถเปิดทำการบินระหว่างไทย-จีนได้ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งจากการหารือร่วมกับสายการบินสัญชาติไทย 8 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทย, ไทยสมายล์, บางกอกแอร์เวย์ส, นกแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยเวียตเจ็ท, ไทย ไลอ้อน แอร์ และไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ แต่ละสายการบินให้ความสนใจ ทั้งนี้ในระยะแรกเนื่องจากได้รับโควตามาไม่มาก จึงต้องให้สายการบินที่เคยเปิดเส้นทางบินประเทศจีนมาก่อนหน้านี้ได้รับสิทธิ์ก่อน โดยเป็นการสลับกันบินสายการบินละสัปดาห์

ขณะเดียวกันสายการบินสามารถทำการบินได้ทุกเมืองที่เคยทำการบิน ยกเว้นปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ เบื้องต้นมีสายการบินขอทำการบินมายัง กพท. แล้ว ประกอบด้วย สายการบินไทย,ไทยสมายล์, ไทย ไลอ้อน แอร์ และไทยแอร์เอเชีย จะเปิดทำการบินไปยังเมืองกวางโจว โดยสายการบินไทย เริ่มทำการบินวันที่ 18 มิ.ย.65 ขณะที่สายการบินไทยเวียตเจ็ท ทำการบินไปยังเมืองคุนหมิง ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว ส่วนสายการบินนกแอร์ ทำการบินไปยังเมืองหนานหนิง ขณะนี้ประเทศจีนยังคงให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็น อาทิ นักธุรกิจ และนักเรียน นักศึกษา หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางจีนก็จะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวบินต่อสัปดาห์ให้กับประเทศไทยต่อไป

 

 

 

รายงานข่าว กล่าวต่อว่า กพท. ได้แจ้งถึงมาตรการที่เข้มงวดของจีนให้แต่ละสายการบินทราบแล้วว่า ในการทำการบินไปยังประเทศจีน หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีเชื้อโควิด-19 จากสายการบินใด สายการบินนั้นจะถูกห้ามบินในเที่ยวบินถัดไปทันที ซึ่งนอกจากจะเกิดความเสียหายต่อสายการบินแล้ว ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้วย ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางสายการบินต้องกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ภายใต้ข้อกำหนดมาตรการต่างๆ ของประเทศจีน และผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ยั่งยืน เดินทางได้อย่างราบรื่น และไม่เกิดปัญหา รวมทั้งสายการบินจะไม่ถูกลงโทษด้วย

ทั้งนี้การที่สามารถเปิดเส้นทางบินระหว่างไทย-จีนได้แล้วนั้น ในระยะแรกนี้แทบจะไม่มีผลต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย เพราะเปิดให้บริการได้ไม่กี่เที่ยวบิน แต่ถือเป็นการให้แต่ละสายการบินได้เตรียมความพร้อมมากกว่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเข้า และออกประเทศไทยทางอากาศ ประมาณ 4.2 หมื่นคน จากเดือนก่อนหน้านี้ประมาณวันละ 3-4 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย และสิงคโปร์ ซึ่งเดือน พ.ค. ผู้โดยสารชาวสิงคโปร์เดินทางมามากที่สุด ขณะที่เดือน มิ.ย. ผู้โดยสารชาวอินเดียมาใกล้เคียงกับสิงคโปร์ ส่วนชาวยุโรป เนื่องจากช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวของชาวยุโรป คาดว่าประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์หยุดยาวของชาวยุโรป น่าจะเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น.