‘ศรีฟ้า’สปีดขยายต่างประเทศ พลิกโฉมสู่ร้านคาเฟ่ครบรส ก่อนปั้นแบรนด์ขึ้นชั้นพรีเมียม

17 พ.ค. 2559 | 06:30 น.
ศรีฟ้า โฟรเซนฟู้ด เปิดเกมเดินเครื่องพาทองม้วนแบรนด์ "สุธีรา"รุกหนักตลาดต่างประเทศ หลังพบยอดขายเติบโตสวนกระแส พร้อมทุ่ม 30 ล้านบาทรีฟอร์แมตซ์หน้าร้าน 3 สาขาหลักใหม่ สู่ร้านคาเฟ่เบเกอรี่แบบครบวงจร ทั้งกาแฟ ขนมหวาน และอาหาร กรุยทางยกระดับแบรนด์พรีเมี่ยม หวังปั้นยอดขายโต 18%

[caption id="attachment_53614" align="aligncenter" width="357"] พีรวัส เจนตระกูลโรจน์  ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด  บริษัท ศรีฟ้า โฟรเซนฟู้ด จำกัด พีรวัส เจนตระกูลโรจน์
ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด
บริษัท ศรีฟ้า โฟรเซนฟู้ด จำกัด[/caption]

นายพีรวัส เจนตระกูลโรจน์ ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด บริษัท ศรีฟ้า โฟรเซนฟู้ด จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัททุ่มงบกว่า 180 ล้านบาท ในการขยายโรงงานผลิตทองม้วนภายใต้แบรนด์ "สุธีรา" เพื่อรองรับการขยายตลาดในต่างประเทศที่จะเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนชื่อจากเดิมคือ "สีฟ้า" ในปีทีผ่านมา เพื่อให้ง่ายต่อการทำตลาดมากขึ้น โดยประเทศที่จะให้ความสำคัญในการทำตลาดเป็นพิเศษในปีนี้ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา และเกาหลีใต้ จากปัจจุบันที่บริษัทมีการทำตลาดในต่างประเทศแล้วทั้งสิ้น 12 ประเทศ โดยมียอดขายหลักมาจากประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา

"หลังจากปีทีผ่านมาเราขยายโรงงานการผลิตทองม้วนที่จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้งบประมาณการลงทุนที่ 180 ล้านบาท โดยมีการนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในการผลิตซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 10 เท่าตัว หรือราว 150 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งทำให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตและขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนส่งออก 80% และจำหน่ายภายในประเทศ 20%"

สำหรับสาขาในประเทศที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 10 แห่งนั้น บริษัทมีแผนในการใช่เงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาทในการรีฟอร์แมตซ์รูปแบบร้านใหม่จากเดิมที่หน้าร้าน "ศรีฟ้าเบเกอรี่" แกรบแอนด์โก สู่รูปแบบของร้านแบบครบวงจร ทั้งขนมหวาน กาแฟ เมนูอาหารง่ายๆ และโต๊นั่งรับประทานภายในร้าน โดยเบื้องต้นจะทยอยปรับเปลี่ยนใน 3 แห่งหลักก่อน ได้แก่ สาขากาญจบุรี (สาขาที่ใหญ่ที่สุดกว่า 30 ที่นั่ง) ภายใต้งบประมาณ 18-20 ล้านบาท ขณะที่ในอีก 2 แห่งอย่าง ศาลายา และสาขาราชบุรี คาดการณ์ว่าจะใช้งบประมาณราว 5-6 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งจะทยอยรีฟอร์แมตซ์ครบทั้ง 3 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยหวังยกระดับแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมี่ยมหรือเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าหลักของบริษัทเป็นกลุ่มกลาง-ล่าง

"ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจเบเกอรี่แบบแกรบแอนด์โก ถูกแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากร้านค้าสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดที่สะดวกสบายมากขึ้น อีกบางร้านค้ายังจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปเนื่องจากสามารถผลิตได้จำนวนมาก ดังนั้นเราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านสู่ร้านแบบครบวงจรเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่ไม่เพียงแต่ต้องการทานเบเกอรี่เท่านั้น หากแต่ยังต้องการรับประทานกาแฟ และอาหารอีกด้วย"

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจเบเกอรี่นั้น บริษัทมีแผนพัฒนาปรับปรุงไลน์สินค้าใหม่ๆเพิ่มเติม 20-30 รายการต่อปี นอกเหนือจากเมนูประจำอย่าง เค้กฝอยทอง ขนมปังแซนวิช ครัวซองต์ เพื่อกระตุ้นตลาดโดยวางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจเบเกอรี่เมืองไทยที่สูงขึ้นในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ราว 18% จากปีทีผ่านมาที่มีอัตรการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% โดยมีตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีนในสัดส่วนยอดขาย 30% และสหรัฐอเมริกา 30% ขณะที่สัดส่วนยอดขายที่มาจากประเทศในภูมิภาคอาเซี่ยนหรือเออีซีในปัจจุบันนั้นยังไม่ถึง 10% โดยวางเป้าหมายหลักช่วง 3 ปีนับจากนี้ (2559-2561) จะสามารถขยายตลาดคลอบคลุมทุกประเทศในภูมิภาคอาเซี่ยน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,157 วันที่ 15 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559