CNBC รายงานว่าอีลอน มัสก์เสนอซื้อ Twitter ในราคา 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยกล่าวว่า บริษัทโซเชียลมีเดียแห่งนี้จำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงในด้านเสรีภาพ ซึ่งการประกาศนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีเปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นของอีลอน มัสก์ ถึง 9.2% ในบริษัทเป็นครั้งแรก และทำให้อีลอน มัสก์คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด
อีลอน มัสก์ ได้เขียนในจดหมายที่ส่งถึงประธาน Twitter ‘เบรนต์ เทย์เลอร์’ ก่อนเปิดเผยในการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยระบุว่า "ผมลงทุนใน Twitter เนื่องจากผมเชื่อในศักยภาพของมันในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเสรีภาพในการพูดทั่วโลก และผมเชื่อว่าเสรีภาพในการพูดเป็นสิ่งจำเป็นทางสังคมสำหรับระบอบประชาธิปไตยที่ใช้งานได้"
สำหรับการเข้าซื้อ Twitter ทั้ง100% อีลอน มัสก์ให้เหตุผลว่า Twitter ในปัจจุบันอยู่บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจที่ไม่อาจเติบโตได้อีกต่อไป ภายใต้การบริหารแบบเดิมๆ เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการมีพื้นทีสำหรับการ Free Speech ได้อย่างเต็มที่ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาจะนำบริษัทออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก
“ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเสนอซื้อกิจการของ Twitter ทั้งหมด 100% ด้วยเงินสด 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งมีราคาหุ้นสูงถึง 54% นับจากในครั้งก่อนที่ผมจะเริ่มลงทุนใน Twitter และสูงกว่า 38% ในวันก่อนการลงทุนของผมจะถูกประกาศต่อสาธารณะ ข้อเสนอของผมคือข้อเสนอที่ดีที่สุดและสุดท้าย และหากไม่ได้รับการยอมรับ ผมจะต้องพิจารณาตำแหน่งของผมใหม่ในฐานะผู้ถือหุ้น”
อย่างไรก็ตามหลังจากข่าวความชัดเจนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรนี้เผยแพร่ หุ้น Twitter พุ่งขึ้น 12% ในการสัญญาเทรดล่วงหน้าหลังจากปิดที่ 45.85 ดอลลาร์ต่อหุ้นในวันพุธ ในขณะที่ท่าทีของคณะกรรมการบริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า คณะกรรมการ Twitter จะตรวจสอบข้อเสนออย่างรอบคอบเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นของ Twitter ทั้งหมด
มูลค่าของ Twitter พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางข่าวความเคลื่อนไหวของมัสก์ โดยเพิ่มขึ้น 6% ในปีนี้และ 18.5% ตั้งแต่ต้นเดือน โดยอีลอน มัสก์ เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นในโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 เมษายน ต่อมาเขาได้นั่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทก่อนที่จะยกเลิกแผนเหล่านั้น
และก่อนหน้านี้ CEO ของ Tesal เคยวิพากษ์วิจารณ์โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ในที่สาธารณะ โดยทำการสำรวจผู้คนบน Twitter เมื่อเดือนที่แล้วว่า บริษัทปฏิบัติตามหลักการพูดโดยเสรีหรือไม่ เขายังบอกด้วยว่าเขากำลังพิจารณาที่จะสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ขึ้นมาเอง