กรมประมงประกาศ! ห้ามจับสัตว์น้ำจืดในช่วงวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อนทั่วประเทศ

04 พ.ค. 2559 | 09:22 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2559 | 16:40 น.
Breaking-News ดร.อดิศร  พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สัตว์น้ำจืดของประเทศไทย เป็นทรัพยากรของแผ่นดินที่มี ความสำคัญต่อวิถีชีวิ ตคนไทยมายาวนาน เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีคุณค่ าทางโภชนาการ และเป็นความมั่นคงด้านอาหารที่ หล่อเลี้ยงประชาชนในประเทศ  ซึ่งเป็นทั้งเพื่อการยังชีพ และสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ทรัพยากรสัตว์น้ำสามารถฟื้นตั วเกิดขึ้นใหม่ทดแทนและดำรงอยู่ อย่างยั่งยืนได้  หากเรารู้จักการใช้ประโยชน์อย่ างถูกต้องและเหมาะสม  ในทางตรงกันข้ามหากมีการนำมาใช้ เกินสมดุลกำลังผลิตของธรรมชาติ ก็จะเป็นสาเหตุให้ปริมาณสัตว์น้ ำลดลงจนเกิดการสูญพันธุ์ได้ในที ่สุด ดังนั้นกรมประมงจึงได้ผลิตพันธุ ์
สัตว์น้ำ และปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่ างๆ เป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการเพิ่ มผลผลิตสัตว์น้ำ ควบคู่กับการบริหารจัดการทรั พยากรสัตว์น้ำ ด้วยการควบคุมเครื่องมื อทำการประมงที่มีประสิทธิ ภาพบางชนิด เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวั งการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ในช่วงฤดูปลาวางไข่และเลี้ยงตั วอ่อน และเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสั ตว์น้ำให้เป็นไปอย่างสมดุลและยั ่งยืน

กรมประมง  มีนโยบายชัดเจนและให้ความสำคั ญในการอนุรักษ์สัตว์น้ำ รวมทั้งการบริหารจัดการทรั พยากรประมงอย่างยั่งยืน โดยดำเนินการศึกษาวิจัย ติดตามสภาวะทรัพยากรประมง เพื่อกำหนดมาตรการทางกฎหมาย ตรวจตราควบคุมเฝ้าระวัง คุ้มครองดูแลรักษาและป้องกันสั ตว์น้ำในธรรมชาติ เพื่อการทำการประมงที่เหมาะสม มาตรการที่สำคัญอย่างหนึ่ งในการบริหารจัดการทรั พยากรประมงดังกล่าว คือการประกาศและกำหนดช่วงเวลา หรือพื้นที่ท้องที่จังหวัด โดยการห้ามใช้เครื่องมื อทำการประมงที่มีประสิทธิภาพสู งจับสัตว์น้ำจืดที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ครอบคลุมแหล่งน้ำจืดของประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ ออกประกาศกำหนดเพื่อใช้เป็ นมาตรการด้านการสงวนคุ้มครอง และอนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ ำจืดในฤดูที่กำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ให้มีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ เพื่อเกิดผลผลิตสัตว์น้ำของแหล่ งน้ำในปีต่อๆ ไป

กรมประมงจึงขอประกาศปิดฤดู การทำประมงในเขตน้ำจืด ในระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 15 กันยายน 2559 พร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น 10 จังหวัด ที่มีประกาศปิดฤดู การทำประมงในเขตน้ำจืดเป็ นการเฉพาะ เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม  2559

2. จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม  2559

3. จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน  2559

4. จังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน  2559

5. จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน  2559

6. จังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม  2559

7. จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม  2559

8. จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม  2559

9. จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ธันวาคม  2559

10. จังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 31 มกราคม 2560

โดยห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงด้ วยเครื่องมือทำการประมง หรือด้วยวิธีใดๆ ในที่จับสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ยกเว้นเครื่องมือที่อนุญาตให้ ทำการประมงได้ เป็นเครื่องมือบางชนิดที่ไม่ ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำอย่างรุนแรงตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

1. เบ็ดทุกชนิด ยกเว้นเบ็ดราว

2. ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ และขนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้าง ไม่เกิน 2 เมตร โดยห้ามไม่ให้ทำการประมงด้วยวิธีประดาหน้าตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป

3. ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โปง และโทง

4. การทำประมงในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือการทำการประมงเพื่อประโยชน์ ทางวิชาการ หรือรวบรวมลูกสัตว์น้ำหรือสัตว์ น้ำวัยอ่อนเพื่อวัตถุประสงค์ ในการเพาะเลี้ยง ซึ่งต้องได้รับหนังสืออนุญาตจากอธิบดีกรมประมงให้อนุญาตเท่านั้น

บทกำหนดโทษ  หากผู้ใดฝ่าฝืนตามประกาศฯ ยังมีผลบังคับใช้ ในบทเฉพาะกาลมาตรา 171 ประกอบมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ปรับตั้งแต่ห้าพันถึงห้าหมื่ นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้ จากการทำการประมง

โดยในปีนี้กรมประมง ได้กำหนดจัดงานวันคุ้มครองปลาน้ ำจืดมีไข่ “ฤดูน้ำแดง” ประจำปี 2559

ในวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2559 ณ บริเวณท่าชัยยุทธ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

อธิบดีกรมประมงได้กล่าวตอนท้ ายว่า....กรมประมงหวังเป็นอย่ างยิ่งในความร่วมมือจากพี่น้ องที่มีอาชีพจับสัตว์น้ำ และประชาชนทั่วไป  ร่วมกันตระหนักถึงความสำคั ญของการอนุรักษ์ และร่วมกันรณรงค์สร้างจิตสำนึ กการทำประมงอย่างถูกวิธี ไม่ทำลายสัตว์น้ำ ด้วยการใช้เครื่องมือที่มีประสิ ทธิภาพ  ไม่จับปลาในฤดูที่ปลาน้ำจืดมี ไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนพร้อมกันนี้กรมประมงขอความร่ วมมือ  ให้ประชาชน ชุมชนท้องถิ่น ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรั กษ์และสร้างจิตสำนึกเพื่ อหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำ ในท้องถิ่นตนเอง ผ่านการจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ทรั พยากรประมง และกลุ่มอาสาสมัครอนุรักษ์สัตว์ น้ำ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเจ้าหน้ าที่กรมประมง ในการสอดส่องดูแลและแจ้ งเบาะแสการทำประมงที่ผิดกฎหมาย เปิดโอกาสให้ฤดูกาลที่สัตว์น้ ำจืดกำลังมีไข่ ได้วางไข่และแพร่ขยายพันธุ์เพิ่ มจำนวนทรัพยากรสัตว์น้ำจืด เพื่อใช้ประโยชน์อย่ างเหมาะสมและยั่งยืนสืบต่อไป