10อันดับนักท่องเที่ยวเข้าไทยมาจากประเทศไหนติดโควิดสูงสุดหลังเปิดประเทศ

14 พ.ย. 2564 | 04:05 น.

ศบค.เผยเปิดประเทศครบ12วัน นักท่องเที่ยวเข้าไทย 3.9 หมื่น พบติดเชื้อ 46 ราย โดย10 ประเทศ ที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดและ10อันดับที่พบผู้ติดเชื้อโควิด มาจากประเทศไหนสูงสุด

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานผลการดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรจากนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 - 12 พฤศจิกายน 2564 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าไทยแล้วทั้งหมด 39,519 คน

 

โดยเป็นนักท่องเที่ยวเดินทาง ประเภท Test and go ไม่กักตัว 27,361 คน แซนด์บ็อกซ์ 10,220 คน กักตัว 7 วัน 634 คน กักตัว 10 วัน 1,304 ราย 

นักท่องเที่ยวเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 - 12 พฤศจิกายน 2564

ในจำนวนนี้พบผู้เดินทางติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 46  คน คิดเป็นสัดส่วน 0.12%

 

จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบว่าอัตราการติดเชื้อขอเดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศจำแนกตามประเทศต้นทาง 10 อันดับตั้งแต่วันที่ 1 - 12 พฤศจิกายน 2564 มีดังนี้

 

  • อันดับ1 ไนจีเรีย  จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย 21 คน พบผู้ติดเชื้อ 2 คน คิดเป็นสัดส่วน 9.52%

 

  • อันดับ2 ศรีลังกา จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย 54 พบผู้ติดเชื้อ 1 คน คิดเป็นสัดส่วน 1.85%

 

  • อันดับ3  ตุรกี จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย55 คนพบผู้ติดเชื้อ1 คน คิดเป็นสัดส่วน1.82%
  • อันดับ4 รัสเชีย จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย1,385 คน พบผู้ติดเชื้อ 9 คน คิดเป็นสัดส่วน0.65%

 

  • อันดับ5 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือUAE จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย916 คน พบผู้ติดเชื้อ5 คน คิดเป็นสัดส่วน 0.55%

 

  • อันดับ6 กาตาร์ จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย411คน พบผู้ติดเชื้อ 2  คน คิดเป็นสัดส่วน0.49%

 

  • อันดับ7 โปแลนด์ จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย240  คน พบผู้ติดเชื้อ 1 คน คิดเป็นสัดส่วน0.42%

 

  • อันดับ8 สหราชอาณาจักร จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย2,142 คน พบผู้ติดเชื้อ 7 คน คิดเป็นสัดส่วน0.33%

 

  • อันดับ9 อิตาลี จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย408คน พบผู้ติดเชื้อ 1คน คิดเป็นสัดส่วน0.25%

 

  • อันดับ10 เบลเยี่ยม จำนวนผู้เดินทางเข้าไทย494 คน พบผู้ติดเชื้อ 1 คน คิดเป็นสัดส่วน0.2%

อัตราการติดเชื้อของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศจำแนกตามประเทศต้นทาง 10 อันดับตั้งแต่วันที่ 1 - 12 พฤศจิกายน 2564

สำหรับ 10 ประเทศต้นทางที่เดินทางเข้าไทยณ ท่าอากาศยานทุกแห่ง 1-12 พ.ย. 64 ได้แก่

 

  • สหรัฐอเมริกา 4,321 คน
  • เยอรมนี 4,024 คน
  •  สหราชอาณาจักร 2,142 คน
  • ญี่ปุ่น 1,883 คน
  • ฝรั่งเศส 1,463 คน
  • เกาหลีใต้  1,456 คน
  •  รัสเซีย 1,385คน
  •  สวิตเซอร์แลนด์ 1,237 คน
  • สวีเดน  1,084คน
  • อิสราเอล 1,063คน

 

สำหรับ 10 ประเทศต้นทางที่เดินทางเข้าไทยณ ท่าอากาศยานทุกแห่ง 1-12 พ.ย. 64

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจผลลัพธ์จากมาตรการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย ทั้งรูปแบบ Test and Go / Sandbox / กักตัว 7 และ 10 วัน  สะสมเกือบ 40,000 ราย

 

ขณะที่สายการบินที่แสดงความจำนงเปิดเส้นทางการบินจากภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลางเข้าประเทศไทยเพิ่ม ตามความต้องการ (Demand) ที่เพิ่มมากขึ้น

 

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ภาพรวมเที่ยวบินระหว่างประเทศได้มีการเพิ่ม 18 สายการบินด้วยกัน จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ขอทำการบิน ณ สนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤศจิกายน จำนวน 2,008 เที่ยวบิน รวมกว่า 60 สายการบิน และตารางบินระหว่างประเทศสนามบินภูเก็ต รวม 793 เที่ยวบิน 19 สายการบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากเดือนตุลาคม โดย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินรวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 990 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 25 ของเดือนที่ผ่านมา

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 - 12 พ.ย. 64 มีจำนวน 39,519 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พ.ย. 64) แบ่งเป็น ระบบ Test and Go จำนวน 23,715 คน Sandbox จำนวน 1,325 คน รูปแบบกักตัว 7 วัน จำนวน  517 คน และรูปแบบกักตัว 10 วัน 1,263 คน โดยนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go เดินทางเข้ามาผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 22,711 คน ท่าอากาศยานดอนเมือง 202 คน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 211 คน ท่าอากาศยานภูเก็ต 3,592 คน และท่าอากาศยานสมุย 645 คน โดยภาพรวมพบผู้ติดเชื้อ 46 คน คิดเป็น 0.12%

 

ทั้งนี้มีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับ Thailand Pass QR Code ผ่านเว็บไซต์https://tp.consular.go.th/  แล้ว ตั้งแต่ 1- 13 พฤศจิกายน มีจำนวน 173,637 ราย ได้รับการอนุมัติ จำนวน 134,086ราย

 

ขณะที่สถิติการสมัครเพื่อรับมาตรฐาน SHA Plus+  ปรับตัวเพิ่มขึ้น ณ 11 พ.ย.  มีสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน จำนวน 5,760 แห่ง  โดยมีโรงแรมที่พักและโฮมสเตย์ จำนวน 2,302 แห่ง ภัตตาคารและร้านอาหารจำนวน 578 แห่ง เป็นต้น

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียัง กล่าวว่า ในการประชุม ศบค. นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวง ดีอีเอส กระทรวงการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งแก้ไขปัญหาระบบ Thailand Pass ที่ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการอนุมัติ ซึ่งคาดว่า ต่อไปนี้ระบบจะสามารถทำการอนุมัติ Thailand Pass QR Code ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

“ผลตอบรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่ประกาศเปิดประเทศ 1 พ.ย. ทั้งดีมานด์เที่ยวบินและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ต่างชาติมีความเชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพ มีมาตรการสาธารณสุขที่รัดกุม สามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ ควบคู่ไปกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทำให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการทั้งตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเปิดกิจการดำเนินการได้มากขึ้น นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยังให้แนวทางเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมในปลายปีนี้และต้นปีหน้าอีกด้วย” นายธนกรฯ กล่าว