เซ็ปเป้ โชว์ผลงาน Q3/64 NEW HIGH! ฟาดกำไรสุทธิ 143 ล้านบาท

12 พ.ย. 2564 | 12:11 น.

อานิสงส์ตลาดต่างประเทศฟื้นตัวแรงต่อเนื่องช่วงHigh Season บวกกับกลยุทธื์ทำตลาดแบบ O2O ทั้งในไทยและต่างประเทศ ช่วยหนุนผลงานเซ็ปเป้ ไตรมาส 3/2564 รายได้รวม 1,083.9 ล้านบาท เติบโต 13.6% และมีกำไรสุทธิ 142.9 ล้านบาท เติบโต 6.3%

‘บมจ. เซ็ปเป้’ หรือ SAPPE โชว์ฟอร์มดีผลงานไตรมาส 3/2564 รายได้รวม 1,083.9 ล้านบาท เติบโต 13.6%  กำไรสุทธิ 142.9 ล้านบาท เติบโต 6.3% ดันรายได้ 9 เดือนแรกรายได้รวม 2,816.9 ล้านบาท เติบโต  11.5% กำไรสุทธิ 353.2 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

ทั้งนี้รายได้NEW HIGHมาจากแบรนด์สินค้าที่เข้าถึง Lifestyle ของผู้บริโภค และการสร้างช่องทางการขายในรูปแบบใหม่ๆ ของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ เอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศเริ่มคลี่คลายขึ้น กำลังซื้อผู้บริโภคมีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน

 

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์แบบ O2O หรือ Online to Online/Offline Marketing  ผสมผสานการทำตลาดบนออนไลน์และการขายทั้งบนออนไลน์/ออฟไลน์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถสร้างยอดขาย New High ได้ในไตรมาส 3  

 

ส่วนตลาดในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดอยู่พอสมควร บริษัทฯ จึงปรับกลยุทย์มุ่งเน้นไปที่การขายผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ (Online Commerce) อาทิ e-Marketplace รวมถึง Chat Commerce เช่น Line และ Facebook Messenger เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าและโปรโมทกิจกรรมการตลาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต 

โดยเฉพาะการซื้อสินค้าที่หันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตกว่า 600%  

 

“จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 เราเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวในหลายประเทศ โดยเฉพาะเอเชีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง  ขณะที่ตลาดในประเทศเริ่มดีขึ้นหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเริ่มเปิดประเทศ ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่ได้ทยอยเปิดตัวไป

 

อาทิ เครื่องดื่มเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ กรีน รีแล็กซิ่งคาล์ม, เครื่องดื่มบิวติ อิมมู-ซี (Beauti Immu-C), เครื่องดื่มบิวติ บูสเตอร์  (Beauti Booster) สูตรหวานน้อย เป็นต้น และกลุ่มขนมขบเคี้ยว เช่น ลูกอมครูเพ็ญศรี ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2564 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”