2 บิ๊กพิซซ่า แนะปรับกลยุทธ์ คุมต้นทุน-safety stock

30 ต.ค. 2564 | 04:50 น.

“พิซซ่าฮัท-เดอะ พิซซ่าฯ” แนะร้านอาหารปรับแผนรับต้นทุนค่าบริหารจัดการ วัตถุดิบ ค่าแรงเพิ่ม safety stock สินค้านำเข้า พยุงธุรกิจเดินหน้า รอสถานการณ์ฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ และ New Normal

นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันบริษัทบริหารแบรนด์พิซซ่าฮัท เพียงแบรนด์เดียว ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 พิซซ่า ฮัท มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านการดูแลสุขอนามัยและความสะอาดภายในร้าน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านพิซซ่า ฮัท

 

สำหรับต้นทุนที่ลดลงเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ที่ลดลง หลังจากปิดร้านตามมาตรการของ ศบค. รวมทั้งค่าแรง และค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับพนักงานที่ลดลง เนื่องจากจำนวนพนักงานที่น้อยลงหลังจากปิดร้านตามมาตรการของ ศบค.

2 บิ๊กพิซซ่า แนะปรับกลยุทธ์ คุมต้นทุน-safety stock

ทั้งนี้ที่ผ่านมาพิซซ่า ฮัท ไม่ได้รับผลกระทบทางด้านวัตถุดิบเลย เนื่องจากทีมผู้บริหารมีการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า และมีการบริหารจัดการทางด้านวัตถุดิบที่ดี ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่เก็บรักษาที่คลังสินค้าและวัตถุดิบที่เก็บอยู่ที่ร้าน โดยได้ประเมินปริมาณวัตถุดิบที่มีการสั่งเข้ามา กับปริมาณการจัดเก็บ ที่สอดคล้องกับยอดการขายที่เกิดขึ้น

 

รวมไปถึงการบริหารจัดการ safety stock สำหรับวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าให้สูงขึ้นจากปกติ เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศต้นทางที่นำเข้าวัตถุดิบ รวมถึงความเสี่ยงจากบริการขนส่งสินค้าทางเรือในบางเส้นทางที่มีปริมาณน้อยลง

 

“พิซซ่า ฮัท ปรับวิธีการบริหารธุรกิจให้มีความคล่องตัว มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งการที่เราปรับตัวได้เร็วจะทำให้สามารถเดินหน้าต่อในธุรกิจได้”

2 บิ๊กพิซซ่า แนะปรับกลยุทธ์ คุมต้นทุน-safety stock

ด้านนายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะพิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีการตรวจสอบวัตถุดิบสม่ำเสมอ ก่อนส่งเข้าไปจัดเก็บที่คลังวัตถุดิบและนำส่งไปยังร้านอาหารในเครือโดยใช้การสัมผัสให้น้อยที่สุด

 

ซึ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมามีผลกับราคาวัตถุดิบหลายชนิด เช่นเนื้อไก่ เนื้อหมูที่ราคาปรับตัวขึ้นสูง แต่เดอะพิซซ่า คอมปะนี ยังคงยืนราคาขายเท่าเดิม ซึ่งราคาวัตถุดิบรัฐบาลควรจะต้องดูแลและลงมาควบคุมราคา

 

 “มองว่าตลาดพิซซ่ากว่าจะฟื้นตัวต้องรออีก 6 เดือนข้างหน้า หรือช่วงปี 2022 เพราะการกลับมาของตลาดต้องมาพร้อมกับการเปิดให้รับประทานที่ร้านเต็มที่ และกิจกรรมต่างๆ ต้องกลับมาเหมือนเดิม เช่น การเปิดโรงภาพยนตร์ ฯลฯ ที่จะช่วยให้ร้านพิซซ่ากลับมาคึกคักอีกครั้ง”

 

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,726 วันที่ 28 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564