อัพเดท‘หัวหิน รีชาร์จ’ พร้อมเปิดเมือง"หัวหิน"รับ"เปิดประเทศ" 1 พ.ย.นี้

โครงการ “HUA HIN RECHARGE” หรือ “หัวหิน รีชาร์จ” เกิดจากความร่วมมือของคนในพื้นที่อย่างแท้จริงระหว่างภาครัฐ สาธารณสุขและภาคเอกชนในพื้นที่ ที่นำเสนอโครงการนี้ให้ภาครัฐพิจารณามาตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพยายามผลักดันที่จะเปิดเมืองมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่ผ่านมาเส้นทางเดินก็ไม่ได้ง่ายเพราะไหนจะต้องเร่งเรื่องของการฉีดวัคซีน แล้วไหนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ว่าราชการจังหวัดและที่สำคัญคือสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ร่วมทำโครงการนี้กับภาคเอกชนมาตั้งแต่ต้น แต่ท้ายสุดทุกคนก็ต้องสานต่อเป้าหมายการเปิดเมืองหัวหินในวันที่ 1 พ.ย.นี้

นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หัวหิน รีชาร์จ พร้อมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนแล้ว ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพราะเกณฑ์ต่างๆ ที่วางไว้เราพร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนของประชากรในพื้นที่ ซึ่งการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 98.00% ส่วนวัคซีนเข็ม 2 อยู่ที่ 79.94% การจัดทำแผนปฏิบัติงาน Standard Operation Procedure หรือSOP และการเตรียมความพร้อมเรื่องการยกระดับมาตรฐานธุรกิจสู่ SHA+ และโรงแรมจะมีการจัดตั้ง SHA+MANAGER เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวและดำเนินการขั้นตอนปฏิบัติต่างๆในช่วงที่พักในโรงแรมด้วย  ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมในหัวหินเข้าร่วม SHA+ รวม 80 แห่ง จำนวนห้องพักเกินกว่า 1,000 ห้อง ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวแน่นอน

โดยการเปิดพื้นที่หัวหินสำหรับจังหวัดนำร่องพื้นที่ท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า)จะอยู่ในบริเวณ 86.36 ตรม.ในพื้นที่ต.หนองแก อ.หัวหิน และเป็นการเปิดพื้นที่ในแบบ INLAND  APPROACH ซึ่งใช้โมเดลเดียวกับ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องมีเอกสารการรับวัคซีน หลักฐานการจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าในโรงแรมSHA+ ตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง กรมธรรม์ประกันสุขภาพ หนังสือรับรองปลอดโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าไทย เป็นต้น

จากนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภา หรือท่าอากาศยานหัวหิน นักท่องเที่ยวจะมีการติดตั้งแอปพลิชั่นหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ)เพื่อใช้ติดตามตัว และโรงแรมจะนำรถที่ได้มาตรฐาน SHA+ และมีห้องน้ำในตัว เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากสนามบิน มาตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 ซึ่งรถทุกคันต้องเปิดGPSและติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถ จัดที่นั่งแบบที่เว้นที่ โดยการตรวจโควิดหากโรงแรมไหนเป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาลไว้แล้ว ก็สามารถนำนักท่องเที่ยวมาตรวจหาเชื้อภายในโรงแรมนั้นๆ ได้ ส่วนโรงแรมที่ไม่เป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาลใดๆ ทางเมืองหัวหินจะจัดพื้นที่เฉพาะไว้ให้ เพื่อให้โรงแรมนำนักท่องเที่ยวมาตรวจหาเชื้อ ก่อนนำเข้าที่พัก

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องอยู่ภายในห้องพักเท่านั้นระหว่างรอผลการตรวจเชื้อโควิด-19 และนักท่องเที่ยวต้องเปิดระบบติดตามหมอชนะเวลาที่อยู่ในหัวหิน  ถ้าไม่พบเชื้อนักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางเที่ยวในพื้นที่ได้ในต.หัวหิน ต.หนองแก ตลอด 7 วันที่พักอยู่  และจะมีการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 หรือ 7 ของการเข้าพักด้วย ซึ่งเดิมกำหนดว่าต้องตรวจแบบ RT-PCR แต่ขณะนี้มีการหารือว่าการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 จะใช้ชุดตรวจแบบ ATK แทนหรือไม่มีการตรวจเลยก็ได้ขึ้นอยู่กับศบค.ที่จะพิจารณาในครั้งต่อไป  และถ้านักท่องเที่ยวอยู่น้อยกว่า 7 วัน โรงแรมก็จะจัดรถที่ได้มาตรฐาน SHA+ นำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับสนามบินเพื่อต่อเที่ยวบินออกจากไทยทันที และถ้าอยู่เกิน 7 วัน ในที่ 8 หากผลตรวจโควิดครั้งที่ 2 ไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางออกนอกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้

ส่วนแผนเผชิญเหตุเราได้เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ไว้แล้ว การปรับมาตรการควบคุมโรค เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับที่เพิ่มขึ้นจนต้องประกาศระงับโครงการ และขณะนี้เราอยู่ระหว่างการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ อย่างล่าสุดในพื้นที่ตลาดฉัตรไชย เราก็สามารถควบคุมคลัสเตอร์การแพร่ระบาดได้ เพื่อเตรียมเปิดเมืองหัวหินในวันที่ 1 พ.ย.นี้

ส่วนมาตรการการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่กำหนดรวม 46 ประเทศ/พื้นที่ ไม่กักตัวนั้น โดยในช่วงตั้งแต่ 1 -30 พ.ย. 2564  หากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเดินทางมาเที่ยวหัวหินโดยตรงยังไม่สามารถเดินทางมาได้ทันที เนื่องจากการเดินทางจากกรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินดอนเมือง) ต้องใช้เวลาเดินทางเกินกว่า 2 ชั่วโมง  ต้องข้อกำหนดจึงต้องพักโรงแรมในกรุงเทพฯ 1 คืน และทำ RT-PCR ในที่พักนั้น (SHA Plus+)  เพื่อรอผลตรวจหากออกมาเป็นลบ ก็สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในหัวหินได้โดยไม่ต้องกักตัว พร้อมจะได้รับชุดตรวจ ATK คนละ 1 ชุดเพื่อให้นักท่องเที่ยวจะทำการตรวจ ATK ด้วยตนเองในวันที่ 7 แต่หากผลเป็นบวกจะเข้าสู่ระบบการ Quarantine

ส่วนเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่วางไว้ที่ 1 แสนคน สร้างรายได้ 1,200 ล้านบาทเป็นเป้าเดิมเราวางไว้หากเปิดเมืองได้ในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เหลือ 2 เดือน จึงยังไม่ได้ประเมินกันใหม่เพราะเราต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลเรื่องกลุ่มประเทศที่จะมาและเวลาที่เหลืออยู่ทำให้การวางแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอาจน้อยเกินไป เพราะฉะนั้นต้องเร่งให้รายละเอียดเร็วที่สุด

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,724 วันที่ 21 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2564