“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ผ่าน 1 เดือนนักท่องเที่ยวทะลัก 1.9 หมื่นคน

13 ส.ค. 2564 | 07:35 น.

หอการค้าฯเผย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ผ่าน 1 เดือนประสบความสำเร็จ นักท่องเที่ยวทะลักกว่า 19,000 คน ยังอยู่ในไทยกว่า 1.5 หมื่นคน เม็ดเงินหมุนเวียนแล้วมากกว่า 1 พันล้าน จี้รัฐเร่งรับรองวัคซีนสปุตนิกรับนักท่องเที่ยวรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ช่วยเพิ่มรายได้

 

กว่า 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา หลายคนคงเฝ้าติดตามผลลัพธ์ของ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ว่าจะสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนหนึ่งยังมองแบบมีความหวัง เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนลมหายใจ เป็นบ้าน เป็นแหล่งรายได้ เป็นแทบทุกสิ่งในชีวิต ในขณะที่บางคน “ปิดตาย” ความหวังนั้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งประเทศยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ทั้งที่พยายามควบคุมกันอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม ข่าวสารที่เรารับรู้กันส่วนใหญ่ มักเป็นไปในทางสร้างความกังวลมากกว่า แต่สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่จะรู้สึกเช่นเดียวกันหรือไม่

 

นายธนูศักดิ์  พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คนภูเก็ตเตรียมการเรื่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มานานพอสมควรก่อนที่จะเปิดตัว ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีน ไปจนถึงมาตรการป้องกันต่าง ๆ และเมื่อมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ก็ยกระดับมาตรการรองรับได้อย่างทันท่วงที แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง แต่ก็เป็นจำนวนน้อยและสามารถควบคุมได้ ที่สำคัญคือมีนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อเพียง 50 คน จากจำนวน 19,000 คนที่เข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน

 

“ในส่วนภาพรวมการผู้ติดเชื้อในปัจจุบันของภูเก็ต ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มแรงงานต่างด้าว บางคนลักลอบเข้ามาทางเรือ พร้อมนำเชื้อเข้ามาด้วย แต่ก็พยายามบริหารจัดการให้ได้ดีที่สุด โดยทางจังหวัดได้ปรับเรือนจำเก่าแยกให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะ ประมาณ 500 เตียง ซึ่งจะช่วยจำกัดการแพร่ระบาดได้อีกทางหนึ่ง” นายธนูศักดิ์ กล่าว

 

สำหรับความคืบหน้าของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในขณะนี้ ตัวเลขการจองห้องพักยังดีอยู่ ประมาณ 7,000-8,000 Room night ต่อวัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมประมาณ 19,000 คน กลับไปแล้ว 4 พันกว่าคน และยังคงอยู่ในประเทศไทยอีกกว่า 1.5 หมื่นคน ทั้งยังอยู่ในภูเก็ตและเดินทางต่อไปยังสถานที่อื่น ๆ อันหมายถึงเม็ดเงินที่ยังหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศไทย

 

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ผ่าน 1 เดือนนักท่องเที่ยวทะลัก 1.9 หมื่นคน

 

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวแล้ว ภาครัฐและเอกชนกำลังหารือกันในการจัดกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การแข่งขันกีฬา การจัดประชุมสัมมนา และอาจจะมี Big Event ประมาณปลายปี แต่การจัดกิจกรรมเหล่านี้ได้ จะต้องมีมาตรการคัดกรองที่ดี และทุกคนต้องช่วยกันจึงจะประสบความสำเร็จ

 

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ผ่าน 1 เดือนนักท่องเที่ยวทะลัก 1.9 หมื่นคน

 

“สิ่งที่ต้องช่วยกันผลักดันในขณะนี้ คือการรับรองวัคซีนสปุตนิกจาก WHO หรือ อย. เพราะเป็นวัคซีนที่นักท่องเที่ยวจากรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ได้รับ และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความต้องการเดินทางมายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญเพิ่มเติมให้กับประเทศไทย โดยขณะนี้มีเที่ยวบินจากมอสโคไปยังอียิปต์ถึงวันละ 40 เที่ยวบิน หากไทยได้นักเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยกับกงสุลรัสเซียว่าต้องการบริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยเบื้องต้นประมาณ 1 แสนโดส เพื่อเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับภูเก็ต ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากยิ่งขึ้น”

 

“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ผ่าน 1 เดือนนักท่องเที่ยวทะลัก 1.9 หมื่นคน

 

 

นายวัฒนา  ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า หลายประเทศกำลังจับตามองผลลัพธ์ของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด สำหรับหอการค้าฯ มองภาพรวมของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ผู้ประกอบการพึงพอใจ มีเม็ดเงินหมุนเวียนแล้วกว่า 1 พันล้านบาท ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจ และมีการแจ้งแรงงานเพิ่มมากขึ้น

 

วัฒนา  ธนาศักดิ์เจริญ

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังมีอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ เช่น ในเรื่องวัฒนธรรมการกินอาหารของบ้านเราที่มักกินรวมกัน ดังนั้น การไม่มีผู้ติดเชื้อเลยอาจเป็นเรื่องยาก เพราะการระมัดระวังของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด นอกจากนั้น ระบบสาธารณสุขจะต้องสามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามานั้นถือว่าน่าพอใจ ไม่ต้องตั้งเป้าให้สูงมากจนเกินไป ค่อย ๆ ขยับตัวเลขขึ้น ดีกว่าการปล่อยเข้ามาจำนวนมากแล้วควบคุมไม่ได้

               

สำหรับการขยายผลในโครงการสมุยพลัส (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ซึ่งรับนักท่องเที่ยวต่อจากภูเก็ต ก็ถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี โดยเกาะสมุยมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วประมาณ 97% พะงัน 123% เกาะเต่า 128% หมายความว่ามีผู้ได้รับวัคซีนที่อยู่นอกเหนือจากทะเบียนบ้านได้รับวัคซีนด้วย สิ่งนี้จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้น ภาครัฐและเอกชนกำลังร่วมกันดำเนินการและทบทวนมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเตรียมขยายผลไปยังพังงาและกระบี่ เพื่อเพิ่มเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวทั้งประเทศอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากการกระจายวัคซีนในขณะนี้ยังไม่เร็วพอ คาดว่าอาจจะประมาณปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 การท่องเที่ยวของประเทศจึงจะกลับมาได้เป็นปกติ