ดัน "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"ฮับกระจายทัวริสต์เชื่อมSealed Route 5พื้นที่

26 ก.ค. 2564 | 06:10 น.

ไทม์ไลน์ใหม่นำร่องเปิดประเทศ ดัน“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ฮับกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติ“พิพัฒน์” หารือนายกประยุทธ์แล้วลดวันอยู่ในภูเก็ตเหลือ 7 วัน ส่วนอีก7วันที่เหลือให้เที่ยวในเส้นทางซีลรูท5 พื้นที่ เริ่มจากกระบี่-พังงา-สุราษฏร์ธานี ส.ค.นี้ เชียงใหม่-ลำพูน ต.ค.นี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าในขณะนี้ผมได้หารือกับนายกรัฐมนตรีถึงความคืบหน้าในการนำร่องเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งหลังจากเปิด “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”มาได้ 18 วัน ก็ถือว่าไปได้ดีในระดับหนึ่ง แม้อาจจะยังไม่ได้ตามเป้า แต่ก็ยังดีมานต์การเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง

 

อีกทั้งจะเห็นว่าวันนี้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่อยู่ในภูเก็ตครบ 14 วันแล้วก็เริ่มมีการเดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงไปเที่ยวเกาะสมุย ที่มีการเดินทางเข้าไปแล้วกว่า 55 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากกว่านักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวโดยตรงผ่านโครงการ “สมุยพลัส”ที่เปิดมา 5 วันมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 17 คน

 

ดังนั้นการใช้ภูเก็ตเป็นฐานในการกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่อื่นๆก็จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยากเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันยังทำให้พื้นที่อื่นๆที่มีความพร้อมสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ด้วย

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

ผมจึงหารือกับนายก ว่าจะขอดำเนินการเปิดพื้นที่ Sealed routes (ซีลรูท) เชื่อมจากภูเก็ตไปยังพื้นที่นำร่องอื่นๆ โดยนักท่องเที่ยวอยู่ในภูเก็ต 7 วัน จากนั้นในอีก 7 วันหลังให้สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ Sealed routes ที่กำหนดไว้ได้


ทำให้โดยรวมแล้วนักท่องเที่ยวก็จะอยู่จนครบ 14 วัน ก่อนจะเดินทางออกไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ในไทย ซึ่ง 7 วันแรกที่อยู่ในภูเก็ต จะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง คือครั้งแรกที่เข้าสนามบินภูเก็ต ครั้งที่2 เป็นวันที่ 6 หรือ 7 ส่วนครั้งที่ 3 คือในวันที่ 13 หรือ14 ให้ไปตรวจโควิดที่พื้นที่  Sealed routes

 

โดยหลักการท่านนายกก็เห็นด้วย  ผมจึงมอบหมายใหเปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ไปจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอ ศบค.ชุดเล็กอีกครั้ง
 

สำหรับการเปิดพื้นที่ Sealed routes ที่วางไว้ผมมองไว้ 5 พื้นที่ได้แก่

 

  • เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล จ.กระบี่ วางเป้าหมายไว้วันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยพื้นที่เหล่านี้ได้รับวัคซีนครบแล้ว
  • เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา  ที่จะเปิดให้ได้ภายในเดือนส.ค. แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทันวันที่ 15ส.ค.หรือไม่ เนื่องจากคนในพื้นที่นี้เพิ่งได้รับวัคซีนราว30-40% ก็ได้มีการขอไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้วเพื่อให้เร่งฉีดวีคซีนให้เพิ่มขึ้นเป็น 70% แต่ถ้าไม่ทันก็จะอาจต้องขยับวันออกไป
  • พื้นที่ Sealed routes เกาะสมุย  ที่จะเริ่มในวันที่1ส.ค.นี้  ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเพราะปัจจุบันมีเที่ยวบินในเส้นทางภูเก็ต-สมุย ของบางกอกแอร์เวย์สบริการอยู่แล้ว
  • พื้นที่ อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ 1 ต.ค. เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากภูเก็ตเดินทางมาเที่ยวภาคเหนือ ซึ่งถ้ามีเที่ยวบินจากภูเก็ตไปเชียงใหม่ ก็จะสามารถเชื่อมโยงการเดินทางได้
  • พื้นที่จ.ลำพูน ซึ่งจะเป็นการเปิด Sealed routes เชื่อมระหว่างเชียงใหม่และลำพูน ในวันที่ 1 ต.ค. ที่ผมมองว่าจะเชื่อมเรื่องของตลาดกอล์ฟได้ โดยได้หารือกับเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ที่จะดึงให้ตลาดเกาหลีเดินทางมาตีกอล์ฟในช่วงฤดูหนาวนี้  

 

ส่วนการเปิดนำร่องรับนักท่องเที่ยวของหัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ และชะอำ จ.เพชรบุรี ก็คาดว่าจะเริ่มได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้  ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯและพัทยา  บางละมุง สัตหีบ จ.ชลบุรี  คาดว่าคงต้องใช้เวลา เพราะมีการแพร่ระบาดมาก ก็คงค่อยมาดูอีกครั้งในช่วงไตรมาส4  

 

ขณะที่การเปิดพื้นที่อ.เมือง,สนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ ก็ต้องยกเลิกแผนที่จะเปิดในปีนี้ออกไป เนื่องจากมีการเลื่อนและยกเลิกการจัดงานโมโตจีพี

ดัน "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"ฮับกระจายทัวริสต์เชื่อมSealed Route 5พื้นที่

ดังนั้นการขอวัคซีนสำหรับคนในพื้นที่เพื่อรองรับการแข่งขันก็คงไม่ได้ขอให้แล้ว การได้รับวัคซีนก็คงจะเหมือนจังหวัดอื่นๆทั่วไป              

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่1-19 ก.ค.มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตแล้ว 8,619 คน มียอดจองห้องพักในช่วงก.ค.-ก.ย.รวม232,079 คืน

 

ดัน "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์"ฮับกระจายทัวริสต์เชื่อมSealed Route 5พื้นที่

ล่าสุดในเดือนนี้จะมีอีก 2 สายการบินใหม่เปิดให้บริการคือสายการบินเตอร์กิซ และกัลฟ์แอร์ ทำให้มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น34 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และกระทรวงการต่างประเทศออกใบรับรองการเดินทางเข้าไทยหรือCOE เข้าภูเก็ตแล้ว 18,190 ใบ           

 

ส่วนการที่สหภาพยุโรปหรืออียู ปรับให้ไทยออกจาก White List มาอยู่ในระดับเบสิค ลิสต์  หรือพื้นที่เสี่ยงระดับพื้นฐาน ณ ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อ 5 ตลาดหลักที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต

 

ได้แก่ อิสราเอล อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส เพราะไม่ได้มีการห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ และยังไม่ได้มีเงื่อนไขว่าเมื่อเดินทางออกมาแล้วกลับไปต้องกักตัวแต่อย่างใด